เราไม่คิดว่าการเผยแพร่ภาพรุนแรงในสื่อจะเลวร้ายเกิน
แบบที่รับกันไม่ได้ว่าสื่อเอาแต่ประโคมข่าวเสียๆหายๆ
หรือคนที่กังวลว่าสังคมจะตกต่ำเลวร้าย มีแต่ฆ่าแกงกัน
รวมไปถึงความกังวลว่าเยาวชนจะกระทำผิดมากขึ้น
หรือเลียนแบบการกระทำไม่ดีจากคนดังที่ทำผิดมากขึ้น
การที่คนมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับข่าวต่างๆ
เป็นเพราะวิธีการนำเสนออย่างนั้นเหรอ?
มันไม่ต่างจากเด็กที่เรียนไม่รู้เรื่องแล้วโทษครูสอนไม่ดี
แต่ก็อาจจะมีบ้างที่ครูสอนผิด อาจจะพูดผิด หรือลืมสอน
ุึถึงอย่างนั้นถ้านร.อยากรู้ก็ต้องหาอ่านเพิ่มเติมเองบ้าง
ที่ไม่รู้หรือเข้าใจผิดไปมาก คงเพราะไม่ตั้งใจที่จะรู้จริง
อาจจะอ่านแค่ที่พาดหัวข่าว อ่านแค่ชื่อเรื่องก็คิดไปเอง
คิดไปเองว่าเข้าใจเนื้อหาข่าวทั้งหมดแล้ว แค่นี้พอแล้ว
ความสนใจของคนเราไม่เหมือนกัน สมาธิจดจ่อก็ด้วย
ถ้าสนใจแค่เพราะจะเอาไปคุยอวดว่าข้ารู้ข้าเห็นก็มีบ้าง
แค่รู้นิดเดียวก็เหมาเอาว่ารู้ไปซะหมดทุกเรื่องก็มี
เพียงเพราะอยากจะมีเรื่องไปพูดกับคนอื่นบ้าง
หรือดูเป็นคนมีความรู้ มีคนมารับฟังคำพูดที่ดูน่าฟัง
ถึงประเด็นหรือสาระสำคัญอาจจะไม่ได้รับรู้ไปก็ตาม
คนที่มีอคติมากๆ ก็อาจไม่รับฟังเรื่องที่ตนไม่สนใจ
หรือคำพูดจากคนหรือแหล่งข้อมูลที่ตนรู้สึกไม่พอใจ
ดังนั้นภาพลักษณ์ของสื่อหรือคนพูดจึงเป็นประเด็นหลัก
แต่สาระเนื้อหาเลยเป็นประเด็นรองไป
คนฟังเพราะเชื่อถือในตัวคนพูด
มากกว่าจะสนใจสาระหรือข้อเท็จจริงกันซะมากกว่า
ข้อมูลจากหลายที่ อาจมีถูกบ้างผิดบ้าง
ลองนึกสภาพว่าสมัยก่อน เชื่อเรื่องโลกแบนกันมา
แล้วหันมาเชื่อว่าโลกกลมกันได้ยังไง
เพราะแหล่งข้อมูลที่สำคัญเปลี่ยนแปลงไป
เปลี่ยนสถานที่รับรู้จากการใช้ศรัทธา
หันมารับความรู้จากวิทยาศาสตร์ที่จับต้องได้
สิ่งที่เห็นชัดและเข้าใจง่าย มักเป็นที่นิยมกว่า
ถึงจะสรุปแบบนั้นจริงๆ ไม่ได้ แต่ก็ยังอยากจะเขียน
ครอบครัวของเราชอบเสพข่าวสารมาก
แบบว่าต้องเปิดดูแต่ข่าว ใครพูดอะไรก็ต้องเอาหูไปแนบ
เรียกได้ว่าตื่นตัวต่อข่าวสารมาก มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
มีอยู่ช่วงหนึ่งตื่นมาฟังข่าวแบบรถเหยียบหัวคนแก่
ข่าวลบๆ มาต่อเนื่องจนรู้สึกหดหู่ แต่เช้าอะไรแบบนี้
แต่ตอนนี้ก็เข้าใจว่าโทษสื่อไม่ได้ ต้องโทษที่เราสลดเอง
บางทีถ้าแค่ฟังเพื่อรับรู้เฉยๆ ก็แทบไม่รู้สึกอะไร
เพราะคนก็ตายกันทุกวันเป็นเรื่องธรรมชาติ
สื่อแค่เลือกนำเสนอเรื่องที่แปลกหรือให้แง่คิด
ให้คนเราไม่ประมาท ให้บทเรียนบางแง่มุม
หลายเรื่องไม่เคยเกิดกับตัว ก็รับรู้ไว้เป็นแบบเรียน
ให้รู้จักระมัดระวัง ให้เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ไม่เห็นแก่ตัว
แต่บางคนก็เอาไปตีความว่าทุกที่จะต้องเจอแบบนี้
เห็นเยาวชนทำผิดก็คิดว่าลูกหลานตัวเองจะซึมซับไป
คนเราจะซึมซับวิธีทำชั่วได้ง่ายๆ เพียงแค่อ่านข่าว?
เรียนให้ตายยังไงก็ไม่เข้าสมองแต่เรื่องชั่วเข้าไปง่ายจริง
มันต้องอาศัยเวลาในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ทั้งดีชั่ว
สิ่งที่เราเคารพนับถือมักถูกใช้เป็นแบบอย่างมากกว่า
ไม่ว่าจะสังคมหรือหน่วยงานหรือสถาบันอะไร
ก็ขับเคลื่อนด้วยระบบระเบียบและสายสัมพันธ์ของคน
มีรูปแบบและแนวทางเฉพาะที่จะบ่งบอกว่าเป็นกลุ่มอะไร
ถ้าไม่เข้าใจว่ากลุ่มไหนทำงานอะไร วัตถุประสงค์อะไร
ก็เข้าร่วมกลุ่มได้ยากลำบาก
คนเราจะอยู่แต่ในที่ที่ตัวเองรู้จักและเข้าใจ
ที่ไหนที่เปิดรับและสัมผัสได้ ก็จะไปที่แบบนั้น
มันไม่ยากที่จะอยู่กับสิ่งที่พอใจ
แต่ยากที่จะอยู่กับสิ่งที่ไม่พอใจ
หรือไม่พอใจไปหมดทุกอย่าง ก็ยากที่จะอยู่
เปลี่ยนแปลงสิ่งอื่นยากและเป็นไปไม่ได้
เปลี่ยนแปลงตัวเองก็ยากแต่เป็นไปได้