ถ้าเป็นเมื่อก่อน คงไม่ลังเลใจที่จะโพสอะไรสาธารณะ
อยากให้มีคนรู้ มีคนเข้าใจเรา อยากแสดงให้มีคนรับรู้
แต่เดี๋ยวนี้คงอยากให้มีผ้าคลุมล่องหนปกปิดตัวตนไปเลย
เอาแบบไม่ให้มีอะไรเล็ดลอดออกมาสักส่วนเดียวยิ่งดี
และยังมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อตัวเองและผู้อื่นอย่างมาก
สมาธิก็แย่มากจนเขียนอะไรไม่เป็นเรื่องเดียวสักที
อาจเพราะสุขภาพกายก็แย่ สุขภาพจิตก็เลวร้ายพอกัน
ไม่ได้อ่านเรื่องที่ตัวเองเขียนมานาน เหมือนไม่ใช่ตัวเอง
หรือความสามารถในการอ่านจะลดลงได้ด้วย
คงเพราะสมาธิเริ่มจะแย่ขึ้น อ่านไม่ค่อยจะรู้เรื่อง
เขียนก็งงๆ ไม่ค่อยเข้าใจ หรือไม่คุ้นชินกับการเขียน
รู้สึกเหนื่อยอยู่ตลอด ทั้งที่ไม่ได้ไปทำงานอะไรหนักๆ
พอคิดไม่ดีแล้วจะรู้สึกแย่มากๆ ทันที จนไม่อยากทำอะไร
แต่เหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเกิดขึ้น
หลังจากที่ค้นพบว่ากลัวตาย ตอนที่พยายามจะตาย
ถึงจะแอบกินยาอยู่บ้าง เวลาที่หงุดหงิด คิดมาก
แต่คงไม่มากเท่านั้น และตอนนั้นมันทรมานกว่าเยอะ
เลยได้เข้าใจว่าไม่ได้อยากตาย แค่ไม่อยากอยู่เท่านั้นเอง
เพราะความตายเป็นสิ่งที่เรายังยอมรับไม่ได้
เช่นเดียวกับการมีชีวิต เรียกได้ว่าไม่ยอมรับอะไรเลย
มีแต่ความรู้สึกปฏิเสธต่อสิ่งต่างๆ
ไม่ได้อยากพยายามรู้หรือเข้าใจอะไรเลย
ถึงอย่างนั้นก็มีสิ่งหนึ่งที่เราเคารพนับถือ
แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ใกล้เกินเอื้อม หรือยากจะเข้าถึง
แต่เราก็คิดมาตลอด มีความสนใจใครรู้ในสิ่งนั้น
ช่วงเวลายากลำบาก เหมือนจะตาย แต่ก็ไม่ตาย
ตอนที่รู้ว่าตัวเองกลัวความตายขนาดไหน
ก็ได้คิดทบทวนว่าทำยังไงจะไม่กลัว
รู้แต่ว่าเรากลัว เพราะเราไม่รู้ ไม่รู้ว่าตายเป็นยังไง
เลยกลัว กลัวความตาย กลัวความทุกข์
เพราะเราไม่รู้จักความตาย ความทุกข์
แทบไม่รู้อะไรเลย แม้แต่ตัวเอง
พอตระหนักว่าแม้แต่ตัวเองยังไม่รู้ไม่เข้าใจ
เราก็คิดว่าจะต้องศึกษาหาความรู้ให้มากขึ้น
ทั้งความตาย ความทุกข์ และตัวเอง
ถ้ามีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น
บางทีความกลัวอาจจะหายไป
เราต้องการแบบนั้น มีวัตถุประสงค์ใหม่แบบนั้น
ต้องการที่จะมีความรู้เกี่ยวกับความตายมากขึ้น
ก่อนที่จะตาย ยังอยากตายดีตายแบบสงบใจได้
หรือตายแบบที่ยอมรับได้ ทั้งตัวเราและคนรอบตัว
มันยากที่เราจะเข้าใจคนอื่นได้
เพราะเรามักจะปฏิเสธคนอื่นอยู่ตลอด
อาจเป็นความรู้สึกผิดและความกดดันบางอย่าง
แต่เมื่อเราจัดการปัญหาตัวเองได้
ก็คงมีความสามารถพอที่จะช่วยเหลือผู้อื่น
ถึงจะไม่อยากเป็นคนไร้ความสามารถ
แต่บางครั้งก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
แค่ยอมรับและเข้าใจตัวเองยังยากเลย
ถ้าเรียนรู้มากขึ้น อาจจะทำได้ดีขึ้น
ความรู้สึกไม่พอใจที่เกิดขึ้นบ่อยๆ
ทำให้เหนื่อยและท้อ เพราะใจไม่สงบละมั้ง
ทั้งที่ไม่ได้มีแรงมากพอที่จะไปรับความขุ่นเคืองมาไว้
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะรับความรู้สึกที่ดีไว้มากกว่า
แต่ไม่สามารถเลือกได้ว่าจะพบเจออะไร
เรื่องร้ายอาจถูกดึงดูดเข้ามามากกว่าในเวลานี้
ถึงจะไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะมาถึงหรือไม่
ก็ควรจะเตรียมตัวเตรียมใจให้ได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
แนวทางของศาสนาและประวัติศาสตร์ก็มีให้ศึกษา
ยิ่งได้เรียนรู้มากขึ้นก็มีกำลังกายกำลังใจมากขึ้น
พร้อมที่จะรับมือกับความกลัวที่เป็นศัตรูของเรา