Sunday, January 08, 2017

โกยมาเป็นกรอบแล้ว

ตอนที่แมวตายนะ ตัวล่าสุด
เราไม่พอใจตัวเองอย่างหนึ่งคือ
เรื่องที่นึกเสียดายขึ้นมา
คิดถึง​ข้อดีของการมีแมวตัวนั้นอยู่
เผลอเอาไปเปรียบกับแมวที่อยู่บ้าง
มันทั้งสวยทั้งฉลาด มีเสน่ห์​ดึงดูด​ให้สนใจ
รู้จักเอาอกเอาใจ วางตัวได้ดีมาก
ไม่สอพลอ ไม่ติดกวนให้รำคาญ
แถมยังเปิดประตูกรงออกมาเองได้
คือแมวตัวอื่นทำไม่ได้  มันทำได้หมด
เป็นแมวในอุดมคติเลยก็ว่าได้
แต่ความฉลาดก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตยืนยาว
ตายแล้วก็ส่งกลิ่นเหม็นโชยมาเป็นระยะ
อาจจะเพราะจมูกเราแบกรับกลิ่นเอาไว้เอง
มันก็ตายไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดก็ยังอยู่
อยู่​ที่เราอะนะ ที่เปิดแผลเอาไว้รับละมั้ง
มีอยู่อย่างหนึ่งที่นึกขึ้นมาได้
ความชะล่าใจ ประมาท สติ
อาจมีบทเรียนเกี่ยวกับเรื่องทำนองนั้น
ยิ่งเจ็บปวดก็จะยิ่งได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น
อย่าไปรังเกียจความเจ็บปวดอีกเลย
ต้องนึกขอบคุณสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่อง
อะไรก็ตามที่เรามองเป็นปัจจัยให้เกิด
อะไรก็ตามแต่..

มีบุญคุณต่อเรา
ช่วยบ่มเพาะปัญญาความรู้
แม้จะหยั่งมาด้วยความเจ็บปวด
ก็ไม่สาหัสเกินกว่าจมในโคลนตม

เมื่อปัจจัยเอื้อให้เจริญเติบโต
พืชที่เคยต่ำเตี้ยเรี่ยดินมันก็จะเติบใหญ่
หัดเตรียมปัจจัยไว้ให้พร้อมซะนะ
โตไปให้ถึงเมืองยักษ์บนก้อนเมฆ
ปลิดชีพยักษ์แล้วดำดิ่งลงมา
เอ้ย ผิดเรื่องหรือเปล่านะ
ไม่รู้ผิดถูกยังไง เพราะ​ชักจะหลงผิด
เอาแต่คิดว่าตัวเองนั้นตายไปแล้ว
และกำลังใช้หนี้อยู่ในนรกสักที่
คนอื่นนั้นก็ไม่มีอยู่จริง
ให้ตายเถอะ แบบนี้เข้าข่ายดีลูซชั่นป่ะ
แต่ที่รู้ๆ คือ ไม่ดีแน่
คิดแบบนี้ ทำให้เกิดผลเสียตามมาเยอะ
เทียบกับคิดแบบมีสามัญสำนึกแล้ว
คงดีกว่า ถ้ากลับไปใช้คอมมอนเซนส์ได้
แต่เป็นแบบนี้ ก็คงต้องหาทางแก้อะไร
อาจจะเอาไปใช้หาประโยชน์ได้บ้าง
คิดแบบเห็นแก่ตัวหรือเปล่านะ
คงต้องหาทางคิดแบบเห็นแก่ส่วนรวม
น่าจะมองงานที่เป็นสาธารณประโยชน์บ้าง
พอได้ทำงานที่กอบโกยเข้าแต่ตัวเองแล้ว
ก็ยิ่งรังเกียจชีวิตตัวเองมากเข้าไปอีก