เราควรจะพูดแต่เราก็ไม่พูดจริงๆ
คิดว่ามันจะต้องทรมาน
และมันก็ทรมานจริงๆ อึดอัดจริงๆ
เราเกลียดการพูดมากๆ
โดยเฉพาะการพูดถึงปัญหาของตัวเอง
หรืออะไรก็ตามที่เชื่อมโยงมาที่ตัวเองได้
มันฟังดูแย่ เรารู้สึกไม่ดีกับการเป็นแบบนี้
แต่เราพัฒนาการเกลียดการพูดมากขึ้นเรื่อยๆ
เกลียดเวลาต้องคุยกับใครก็ตาม ไม่ว่าเรื่องอะไร
มีแต่ความรู้สึกอึดอัดที่จะพูดคุยกับใครก็ตาม
เราอาจจะยึดติดกับตัวเองมากเกินไป
หรือไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม
ในตอนนี้เรารู้สึกสับสน ความคิดไม่ต่อเนื่อง
หลังจากกินยาXX รวมปริมาณ 100 mg
ในระดับที่ไม่เกินลิมิตต่อวันสินะ
เราไม่ได้อยากตายด้วยอะไรแบบนี้
แค่อยากนอนหลับแบบสบายใจแบบสนิท
แต่ยังไงซะถึงมีใครเรียกก็ต้องตื้นอยู่ดี
นอนตอนกลางคืนตื่นมาหายใจไม่ค่อยดี
บางวันนอนก็เหมือนไม่ได้นอน
พอเริ่มจะง่วงๆ มันคิดช้าลง ร้องไห้ง่ายกว่า
ตอนที่ตื่นด้วยฤทธิ์กาแฟ คิดเร็วแต่
รู้สึกหงุดหงิดง่าย โกรธง่าย โมโหง่าย
พอรู้สึกมากๆ มันอึดอัดจนอยากจะฆ่าใครสักคน
แต่เราก็พยายามควบคุม พยายามออกห่าง
แล้วเราก็รู้สึกแย่มากๆ กับภาระหน้าที่
ยิ่งคิดก็ยิ่งหนี เราไม่ได้ทำความสะอาดกรง
ปล่อยให้มันเน่าเหม็นแล้วกองพะเนิน
มันทำไม่ลง ทำใจไม่ได้ ไม่อยากทำอะไรเลย
ให้ดูยาย เราก็ดูไม่ได้ ทำใจไม่ได้
มันแย่มากที่เรารับผิดชอบอะไรไม่ได้เลย
ถ้าไม่โทษตัวเอง ก็ไปโทษคนอื่น
เราไม่สามารถทำใจยอมรับได้เลย
พยายามให้ไม่คิด ไม่รู้สึก แต่ก็ไร้เรี่ยวแรง
หยุดได้ แต่มันหยุดเคลื่อนไหวไปด้วย
เหมือนกับด้านชา ไปทั้งตัว ทั้งใจ
เราเกลียดการแสดงถ้อยคำออกมา
มันน่ารังเกียจ เราผลักไส พยายามที่จะไม่
ไม่ ทุกสิ่งทุกอย่าง ปฏิเสธ เกลียด
มีแต่ความรู้สึกแย่ๆ ล้นทะลักออกมา
ถึงมันจะเป็นๆ หายๆ ก็เถอะ
เดี๋ยวสักพักก็กลับมาเป็นอีกแบบหนึ่ง
มันกลับไปกลับมา ทรมานกับการเปลี่ยนแปลง
มันควบคุมไม่ได้ อารมณ์ ความคิด
เหมือนมันไหลไปมารวดเร็ว ตามไม่ทัน
ไวต่อสิ่งกระทบ ไวต่อความรู้สึกด้านลบ
ไวต่อการปฏิเสธของผู้อื่น ความไม่พอใจ
มันไม่ได้อยากจะตามเลย อยากจะทิ้งไปมากกว่า
อยากไปจากที่ตรงนี้ ให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะหยุด
ตัวเองไว้ไม่อยู่ คนอื่นอาจจะต้องเสียใจมากกว่านี้
พวกเขาก็ผิดหวัง ไม่พอใจอยู่แล้ว
แค่พยายามให้โอกาสเราเปลี่ยนแปลงตัวเอง
แต่เราทำไม่ได้หรอก เราเกลียดทุกอย่างทุกคน
เกลียดการมีชีวิตอยู่ ความเจ็บปวด ตัวเอง
ให้นำตัวเองออกมาจากการติดลบไม่ได้หรอก
ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ไม่พอใจอะไรสักอย่าง
ออกจากการยึดมั่นยึดติดแบบนี้ไม่ได้หรอก
เราอยากจะเลิกกาแฟแต่มันไม่กระตือรือร้นเลย
ถ้าเราเริ่มง่วง เฉื่อย มันก็เศร้า ท้อ ร้องไห้ง่าย
เราร้องไห้ได้นานต่อเนื่องหลายชั่วโมง
มันปวดตา เจอแสงก็แสบ ตาก็แดง บวม
ครั้งแรกที่เราไปพบจิตแพทย์ก็สาเหตุนี้
เราไปหาหมอรักษาโรคทั่วไป ก็มีไอ มีหวัด
แล้วบอกว่ามันแสบตา ร้องทุกวันวันละเยอะๆ
ตอนแรกหมอจะให้ยาหยอดตา
แต่บอกว่าร้องไห้จนแสบตา
แล้วก็ตัดสินใจว่าจะไปตรวจสุขภาพจิต
ตัดสินใจมาจากบ้านเพราะเห็นว่ามันตรง
ตรงกับประกาศโรคซึมเศร้าและทำแบบประเมิน
แค่คิดว่าป่วยก็ต้องรักษา เป็นเรื่องปกติ
มันรบกวนการทำรายงานในตอนนั้น
แสบตา ทำงานหน้าคอมก็แสบ
เรื่องอาการทางจิตหรืออื่นๆ ก็ไม่รู้เลย
อาจเครียด ทำงานหลายอย่าง แยกสมองไม่ถูก
ผิดหวังในความรัก แต่ก็ไม่ค่อยจะสนใจอะไร
เพราะมองว่ามันปกติไปแล้ว
แค่ซึมๆไป ตอนที่แมวตาย หมาตายก็เป็น
บางทีตอนนั้นเราคงเข้มแข็งกว่าตอนนี้
และเราก็อาจจะอยากกินยาด้วย
เพราะมันช่วยให้มีสมาธิได้มากขึ้น
ดูหนังฝรั่งเรื่องหนึ่งละมั้ง เห็นว่ากินได้ปกติ
อาจจะมีผลข้างเคียงบ้าง
เป็นอีกครั้งที่เราสับสนกับการพยายามเปลี่ยน
มีความเป็นไปได้ว่าเราอาจเปลี่ยนวิธีคิด
ในช่วงระยะเวลาหนึ่งมันคิดแบบหนึ่ง
ต่อมาก็อาจคิดไปอีกแบบหนึ่ง
มันน่าสับสน น่ารังเกียจ
เราชอบตัดสินตัวเอง พยายามตัดสินบ่อยจัง
เราไม่ค่อยพูดไม่ค่อยเขียนทุกอย่างที่คิดเหรอ
มันแย่จัง เราอยากรู้สึก อยากทำความเข้าใจ
มันเยอะเกินไป วุ่นวายเกินไป
แต่มันต้องดีขึ้นได้ ใช่ไหม
เรากดดันตัวเองมากไปใช่ไหม
เราไม่อยากให้ต้องตัดสินถูกผิด
มันมีทั้งพอใจและไม่พอใจ ถูกใจและไม่ถูกใจ
อยากที่จะเปลี่ยนแปลงให้ได้
แต่ความคิดมันแปรปรวนมาก อารมณ์ก็เหมือนกัน
เราคิดแผนอะไรไม่ออก ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ
แต่เรารับการรักษาไม่ได้ เราออกไปไม่ได้
เราไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจอะไรได้
เราเป็นนักโทษของที่นี่ เราต้องอยู่ที่นี่
ต้องได้รับการทรมานจนกว่าจะพ้นโทษ
อาจจะเขียนเว่อร์ไป มันเป็นแค่ความรู้สึก