Sunday, November 13, 2016

ขออภัยในความไม่สะดวก..ซะซะเมื่อไหร่กันเล่า

การให้อภัย​
เป็น​คำง่ายๆ ใช้ภาษาไม่สลับซับซ้อน
แต่ให้ความรู้สึกที่มากล้นเกินบรรยาย

ให้อภัย​ตัวเอง​จากการทำผิดพลาด
กลับไม่ง่ายเหมือนดังถ้อยคำ
ให้อภัย​คนอื่นที่ทำร้ายเรา
ยิ่งยากไม่ต่างกันไป

มีเหตุผล​อะไรที่เราจะต้องให้อภัย
การให้อภัยส่งผลอะไร ต่ออะไร?
การให้อภัยเป็นเรื่องทางจิตใจ
เป็นการปฏิบัติตามแนวทางของศาสนา
ศาสนาต่างๆ ล้วนยอมรับการให้อภัย
ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม

คริสตศาสนามีนิทานสอนเรื่องการ​ให้อภัย
เรื่องราวเกี่ยวกับลูกชายเกเรที่หนีออกจากบ้าน
แต่สุดท้ายพอลูกกลับมา พ่อ​ก็ให้อภัยแก่ลูก
ลูกที่ได้รับการอภัยก็ประพฤติตัวดีขึ้น
และเข้าเป็นส่วนหนึ่งของศาสนา

พุทธศาสนา​ก็มีเรื่องขององคุลีมาล
ฆาตกรชายในสมัยพุทธกาลที่หลงผิด
เชื่อว่าจะได้ค้นพบสัจธรรมจากการฆ่าคน
สุดท้ายก็ได้พบกับพระพุทธเจ้า
ได้เห็นแสงสว่างทางปัญญาอันน่าเลื่อมใส
ก็กลับกลายเป็นผู้ทรงศีลได้ในทันที
ค้นพบสัจธรรมที่แท้จริงผ่านการละเว้นกรรมชั่ว
และได้กลายมาเป็นเรื่องราวอันเป็นแนวทาง
ให้กับพุทธศาสนิกชนสืบต่อไป

การให้อภัย​ช่วยยกระดับจิตใจของผู้คน
แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องดูถูกคนที่ไม่ให้อภัย
การให้อภัยนั้นยากที่จะทำได้ในทันที
ชีวิตจริงนั้นแตกต่างจากเรื่องเล่าหรือนิทาน
แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ
รูปแบบความสัมพันธ์ของมนุษย์
ล้วนมีการจำลองอยู่ในเรื่องแต่งทั้งหลาย
การดำรงอยู่ของมนุษย์ก็มักจะขึ้นอยู่กับ
รูปแบบเหล่านั้น

หรือแม้แต่สัตว์ที่ใช้ภาษาต่างออกไป
รูปแบบการดำรงชีวิตและความสัมพันธ์มีทั้ง
ต่างมากและแทบจะคล้ายคลึงกัน

การให้อภัย​เป็นแนวทางหนึ่งในรูปแบบความสัมพันธ์  ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้นที่ควรได้รับการอภัย  แม้แต่สัตว์  แม้แต่ผืนดิน สายน้ำ โลก จักรวาล​ ก็สมควรได้รับการอภัย

ได้รับการอภัยจากการเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง  เป็นสาเหตุที่นำภัยพิบัติ หายนะและความเจ็บปวดต่างๆ นานามาสู่เราได้

ในชีวิตนี้ เราอาจพบได้ทั้งสิ่งที่อภัยให้ได้กับสิ่งที่ไม่สามารถอภัยให้ได้  การไม่ให้อภัยล้วนมาจากการยึดติด..

ทำไมเราจะต้องทำดีให้กับคนที่เอาแต่โทษว่าความผิดทุกอย่างเป็นความผิดของเราด้วยล่ะ  เรามีชีวิตอยู่เพื่อที่จะรองรับการป้ายความผิดทั้งหมดหรือยังไง

เรา​จำเป็น​จะต้อง​มีชีวิต​อยู่กับกลุ่มคนที่เห็นเราเป็นผู้ต้องหาด้วยหรือไง

ไม่ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร เราก็ผิดอยู่ดี

มีแต่เราที่ยอมรับความผิด ก็เลยยกความผิดมาให้เราหรือไง

เราไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ ในความผิดเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้น​ในทุกวัน วันละเรื่อง สองเรื่อง หรือมากกว่านั้น

เช่นเดียวกับ​ผู้คน หรือสิ่งแวดล้อมที่สนับสนุนการไม่ให้อภัยตัวเองของเรา ก็ไม่ได้รับการอภัย

นี่​คือ​ตัวอย่าง​จากชีวิตของเรา ในตอนนี้

ในตอนที่ยึดติดกับความเจ็บปวด  ความเป็นตัวเป็นตน จนไม่ยอมให้อภัย ไม่ยอมให้การอภัยได้เกิดขึ้น

เพราะ​การให้อภัยทลายการยึดมั่น ที่เราสำคัญไปว่า จำเป็น​ต่อการดำรงอยู่

และเราได้ยึดติดกับการต้องการได้รับความเป็นธรรม ที่ถูกทำให้ได้รับความเจ็บปวด ที่เป็นทุกข์

ทั้งที่ความเป็นธรรมสามารถเกิดขึ้นได้ภายในตนเอง  เมื่อให้อภัย

ถ้า​พิจารณา​ความเจ็บปวด​ที่เกิดขึ้น​ ก็เป็นสิ่งที่เกิดภายในตนเอง ซึ่งเราสามารถกำหนดหรือควบคุมได้ เมื่อเห็นต้นเหตุของความเจ็บปวดนั้น

จากการที่เราได้ศึกษาแนวทางปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนา จากตำราเรียน หนังสือธรรมะ ครูบาอาจารย์​ และพระสงฆ์ผู้เผยแผ่คำสอน  เรื่องการให้อภัย อาจจะไม่ใช่แนวคิดสำคัญที่เด่นชัด โดยมากเน้นการดับทุกข์ การแก้ปัญหา​ชีวิต และการพัฒนายกระดับจิตใจ

การให้อภัย​ไม่ใช่เรื่องที่สอนกันได้ผ่าาถ้อยคำไม่กี่คำ  เราเรียนรู้มาแบบนั้น และจากประสบการณ์ก็พบความยากลำบากในการให้อภัย

อนึ่ง การให้อภัยไม่ได้เกิดจากการคิดใคร่ครวญ  ลำพังเพียงแค่การคิดและใช้เหตุผล อาจไม่เพียงพอ  แต่​เมื่อพิจารณาถึงบางสถานการณ์ที่มีการให้อภัยแล้ว มีความเป็นไปได้ว่า การให้อภัยไม่ได้ทำงานแบบเดียวกับการคิดเชิงตรรกะ แต่ใกล้เคียงกับแนวคิดเรื่องความรักในคริสตศาสนา และความเมตตาในพุทธศาสนา

ใช้ความคิดอาจจะยากเกินกว่าจะให้อภัยได้ จึงต้องเปิดโอกาสให้ความรู้สึกที่ดีได้เกิดขึ้น  เมื่อเรารู้สึกดี การให้อภัยก็ทำได้ไม่ยากเลย