Wednesday, October 26, 2016

หน้ากลัว

มีถ้อยคำที่ไร้สาระเกินไป
ที่เราคิดวนเวียนอยู่ในหัว
ต้องการที่จะสลัดมันออกไป
อยากผลักไสสิ่งนั้น
ความสามารถในการเชื่อมโยงนั้น
เป็นสิ่งเดียวกับการแบ่งแยก
ถ้าบอกว่ามีเส้นตรงกลาง
ระหว่างข้างซ้ายกับข้างขวา
มันเป็นไปเพื่อเชื่อมสองฝั่ง
หรือเพื่อแยกแยะกันล่ะ
การแยกแยะเป็นประโยชน์
เพื่อการจัดระเบียบ มีความรัดกุม
มีความปลอดภัยเกิดขึ้นตามมา
ดังนั้นการแบ่งแยกจึงจำเป็น
ไม่สิ เรารวมคำแบบนั้นได้ไง
การ​แยกแยะ​ไม่ใช่การแบ่งแยก
คนกลางไม่ได้แยกคนริมออกจากกัน
มันน่ากลัวเกินไปที่จะคิดอะไรแบบนั้น
ไม่จำเป็นจะต้องเชื่อมโยงสิ่งไร้สาระ
ทั้ง​ที่ก็ต้องยอมรับว่าเราคือสิ่งไร้สาระ
เต็ม​ไปด้วยความรู้สึกที่ผิดพลาด
และตรรกะที่ผิดเพี้ยน
เป็นสิ่งไม่จำเป็นต่อโลกใบนี้
ตัวเหลือบริ้นไรยังทำคุณประโยชน์มากกว่าเรา
การใช้ความสามารถจำเป็นถึงเพียงนั้น
ถ้าเป็นความสามารถที่ได้มา
จากการตัดแขนข้างหนึ่ง
ยังเป็นสิ่งที่ดีอยู่หรือเปล่า
มันจำเป็นสินะ กฏของโลกใบนี้
เราจำเป็นต้องยึดกฏเกณฑ์ของสังคม
เพียงแต่เราไม่รู้จักมันเลยแม้แต่น้อย
รู้แต่เพียงสิ่งผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น
หรือความผิดที่อยู่เหนือกาลเวลา
ถึงอย่างไร​ก็เป็นแค่ตรรกะโง่เง่า
ที่เชื่อมเอาความไร้สาระมารวมกัน
โลกนี้มีปรากฏการณ์มากมาย
ที่อยู่นอกเหนือการรับรู้ของเรา
จึงไม่ควรสรุปเอาแต่เท่าที่เราเห็น
ความเห็นของเราไม่อาจจริงเสมอไป
เต็มไปด้วยความผิดพลาดที่อาจเกิด
ความผิดในอนาคต ในอดีต ในปัจจุบัน
ทั้งหมดนั้นเชื่อมโยงเป็นตัวตนของเรา
ถึงอย่างนั้นการยึดมั่นในตัวตนก็ผิดพลาด
และการไม่เชื่อมั่นอะไรก็อาจเป็นอันตราย
มันน่ากลัวเกินไแ ถ้าจะคิดยาวขนาดนี้
แต่การใช้ความรู้สึกแย่ๆ ของ​เรา
ก็น่ากลัวกว่า และมันสัมพันธ์กันเกินไป
อย่าง​น่ากลัว
ระหว่างความผิดพลาดกับตัวเรา
ระหว่างโชคดีกับโชคร้าย
ระหว่างชีวิตกับความตาย
ระหว่างสิ่งที่มีกับสิ่งที่ไม่มี
ระหว่างความอ่อนแอกับความโหดร้าย
ระหว่างทางกับปลายทางและต้นทาง
ระหว่าง​พิมพ์และระหว่างถอนใจ
ระหว่าง​สังคมกับห้องมืด
ระหว่างเสียงหัวเราะกับเสียงร้องเจ็บปวด
ถ้าเราไม่เชื่อมโยงสิ่งที่ดีเข้ากับสิ่งไม่ดี
ความเจ็บปวด​ก็อาจไม่ทวีคูณ
ความสิ้นหวังก็อาจไม่บังเกิด
แต่นั้นก็แค่การคาดเดาแบบโง่ๆ
เราไม่จำเป็นจะต้องแคร์ความปวดร้าว
ไม่ต้องลิ้นรสของความมืดที่มองไม่เห็น
เพราะมันไม่มีอะไรจำเป็น
แต่ถ้าไม่มีอะไรจำเป็นก็ไม่ต้องอยู่
เพียงแค่หายไปจากความไม่จำเป็น
การดำรงอยู่ต้องพึ่งความจำเป็น
สิ่งสำคัญก็ล้วนเป็นสิ่งจำเป็น
ถ้าหมดความสำคัญก็หมดความจำเป็น
ถ้าไร้ความจำเป็นก็ไร้ซึ่งการดำรงอยู่
มันไม่น่าจะเกี่ยวเนื่องกันเลย
ผู้คนที่เชื่อมโยงเข้าหากันด้วยหน้าที่
ด้วยสายสัมพันธ์ต่างๆ ที่มองไม่เห็น
ถ้ามองไม่เห็นความเชื่อมโยงเหล่านั้น
ก็จะหายไปจากสังคม
หรือ​แค่หายไปตามความรู้สึก
การทอดทิ้งที่ดูเหมือนถูกทิ้ง
ความเหงาที่มาจากการปิดกั้น
ทุกความผิดพลาดนั้น
เราได้กระทำมันด้วยตัวเอง
แต่เราก็ไม่ได้ทำมันได้เอง
เพราะมีแรงกระทำที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเรา
แรงที่มากพอจะขับเคลื่อนชีวิต
ทำให้กฏเกณฑ์ดำรงอยู่
อยากจะเชื่อว่าสิ่งนั้นมีอยู่จริง
เพราะมันแสดงว่าเราไม่ได้ตัวคนเดียว
ถึงจะไม่มีหวังแต่ก็ไม่ได้โดดเดี่ยวอย่างแท้จริง
ถึง​จะเป็นสองสิ่งที่ขัดแย้งเสมอมา
แต่ก็ยังคงความลังเลอย่างไม่หยุดหย่อน
มีทั้งโชคดีและโชคร้ายคอยเคียงข้าง
มีทั้งความเป็นและความตายให้นึกถึง
เราไม่ได้ว่างเปล่า
แค่เต็มไปด้วยขยะที่น่ารังเกียจ
และนำกลับไปใช้ใหม่ได้เสมอ
ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้
เราใช้งานขยะที่เรียกว่าความสามารถ
ขยะที่เรียกว่าการทำประโยชน์
ขยะที่ไม่ยอมรับการเป็นขยะของตัวเอง
น่าเจ็บปวดดีจริงๆ เลย
การเป็นความผิดพลาดของระบบที่ดี
สังคมจำเป็นต้องคัดแยกขยะสินะ
คัดเราออกจากสังคมก็เป็นแนวคิดไม่เลว
ถ้าสังคมไม่มีการแบ่งแยก
ก็ไร้ระเบียบสินะ
ถ้ามีสิ่งที่เชื่อมโยงถึงกันได้
อะไรที่มีอิทธิพลต่อผู้คนได้
การหวังที่จะมีชีวิตที่ดีและเป็นสุข
ค่านิยม​ที่ดีสินะ
ถ้าเรามีสิ่งนั้นก็คงเข้าร่วมกับผู้อื่นได้
เราควรจะนิยามสิ่งที่ดีให้ตรงกับสังคม
เพราะสิ่งที่ดีของเรามันเลือนลางเกินไป
มองไม่เห็นเป็นรูปธรรม สื่อออกมาได้แย่มาก
ต้องปรับเลนส์ตาให้ตรงกับภาพรวม
ต้องมองเห็นแบบที่คนอื่นเห็น
มีตาร่วมกับผู้อื่น ก็จะเชื่อมโยงถึงกัน
แบบว่าคุยกันรู้เรื่องละมั้ง
แค่ต้องทิ้งเลนส์ตาสกปรกนั่นไปซะ
เห้ ต้องควักตาออกมาไหมนะ
ไม่ใช่ๆ ต้องล้างตาต่างหากล่ะ
ตาสกปรกอย่างร้ายแรงเลยสินะ
ถึงได้เลิกมองอะไรๆ ไปซะเฉยๆ
การมองเห็นแบบนี้มันน่ากลัวจริงๆ