มีถ้อยคำที่ไร้สาระเกินไป
ที่เราคิดวนเวียนอยู่ในหัว
ต้องการที่จะสลัดมันออกไป
อยากผลักไสสิ่งนั้น
ความสามารถในการเชื่อมโยงนั้น
เป็นสิ่งเดียวกับการแบ่งแยก
ถ้าบอกว่ามีเส้นตรงกลาง
ระหว่างข้างซ้ายกับข้างขวา
มันเป็นไปเพื่อเชื่อมสองฝั่ง
หรือเพื่อแยกแยะกันล่ะ
การแยกแยะเป็นประโยชน์
เพื่อการจัดระเบียบ มีความรัดกุม
มีความปลอดภัยเกิดขึ้นตามมา
ดังนั้นการแบ่งแยกจึงจำเป็น
ไม่สิ เรารวมคำแบบนั้นได้ไง
การแยกแยะไม่ใช่การแบ่งแยก
คนกลางไม่ได้แยกคนริมออกจากกัน
มันน่ากลัวเกินไปที่จะคิดอะไรแบบนั้น
ไม่จำเป็นจะต้องเชื่อมโยงสิ่งไร้สาระ
ทั้งที่ก็ต้องยอมรับว่าเราคือสิ่งไร้สาระ
เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผิดพลาด
และตรรกะที่ผิดเพี้ยน
เป็นสิ่งไม่จำเป็นต่อโลกใบนี้
ตัวเหลือบริ้นไรยังทำคุณประโยชน์มากกว่าเรา
การใช้ความสามารถจำเป็นถึงเพียงนั้น
ถ้าเป็นความสามารถที่ได้มา
จากการตัดแขนข้างหนึ่ง
ยังเป็นสิ่งที่ดีอยู่หรือเปล่า
มันจำเป็นสินะ กฏของโลกใบนี้
เราจำเป็นต้องยึดกฏเกณฑ์ของสังคม
เพียงแต่เราไม่รู้จักมันเลยแม้แต่น้อย
รู้แต่เพียงสิ่งผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น
หรือความผิดที่อยู่เหนือกาลเวลา
ถึงอย่างไรก็เป็นแค่ตรรกะโง่เง่า
ที่เชื่อมเอาความไร้สาระมารวมกัน
โลกนี้มีปรากฏการณ์มากมาย
ที่อยู่นอกเหนือการรับรู้ของเรา
จึงไม่ควรสรุปเอาแต่เท่าที่เราเห็น
ความเห็นของเราไม่อาจจริงเสมอไป
เต็มไปด้วยความผิดพลาดที่อาจเกิด
ความผิดในอนาคต ในอดีต ในปัจจุบัน
ทั้งหมดนั้นเชื่อมโยงเป็นตัวตนของเรา
ถึงอย่างนั้นการยึดมั่นในตัวตนก็ผิดพลาด
และการไม่เชื่อมั่นอะไรก็อาจเป็นอันตราย
มันน่ากลัวเกินไแ ถ้าจะคิดยาวขนาดนี้
แต่การใช้ความรู้สึกแย่ๆ ของเรา
ก็น่ากลัวกว่า และมันสัมพันธ์กันเกินไป
อย่างน่ากลัว
ระหว่างความผิดพลาดกับตัวเรา
ระหว่างโชคดีกับโชคร้าย
ระหว่างชีวิตกับความตาย
ระหว่างสิ่งที่มีกับสิ่งที่ไม่มี
ระหว่างความอ่อนแอกับความโหดร้าย
ระหว่างทางกับปลายทางและต้นทาง
ระหว่างพิมพ์และระหว่างถอนใจ
ระหว่างสังคมกับห้องมืด
ระหว่างเสียงหัวเราะกับเสียงร้องเจ็บปวด
ถ้าเราไม่เชื่อมโยงสิ่งที่ดีเข้ากับสิ่งไม่ดี
ความเจ็บปวดก็อาจไม่ทวีคูณ
ความสิ้นหวังก็อาจไม่บังเกิด
แต่นั้นก็แค่การคาดเดาแบบโง่ๆ
เราไม่จำเป็นจะต้องแคร์ความปวดร้าว
ไม่ต้องลิ้นรสของความมืดที่มองไม่เห็น
เพราะมันไม่มีอะไรจำเป็น
แต่ถ้าไม่มีอะไรจำเป็นก็ไม่ต้องอยู่
เพียงแค่หายไปจากความไม่จำเป็น
การดำรงอยู่ต้องพึ่งความจำเป็น
สิ่งสำคัญก็ล้วนเป็นสิ่งจำเป็น
ถ้าหมดความสำคัญก็หมดความจำเป็น
ถ้าไร้ความจำเป็นก็ไร้ซึ่งการดำรงอยู่
มันไม่น่าจะเกี่ยวเนื่องกันเลย
ผู้คนที่เชื่อมโยงเข้าหากันด้วยหน้าที่
ด้วยสายสัมพันธ์ต่างๆ ที่มองไม่เห็น
ถ้ามองไม่เห็นความเชื่อมโยงเหล่านั้น
ก็จะหายไปจากสังคม
หรือแค่หายไปตามความรู้สึก
การทอดทิ้งที่ดูเหมือนถูกทิ้ง
ความเหงาที่มาจากการปิดกั้น
ทุกความผิดพลาดนั้น
เราได้กระทำมันด้วยตัวเอง
แต่เราก็ไม่ได้ทำมันได้เอง
เพราะมีแรงกระทำที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเรา
แรงที่มากพอจะขับเคลื่อนชีวิต
ทำให้กฏเกณฑ์ดำรงอยู่
อยากจะเชื่อว่าสิ่งนั้นมีอยู่จริง
เพราะมันแสดงว่าเราไม่ได้ตัวคนเดียว
ถึงจะไม่มีหวังแต่ก็ไม่ได้โดดเดี่ยวอย่างแท้จริง
ถึงจะเป็นสองสิ่งที่ขัดแย้งเสมอมา
แต่ก็ยังคงความลังเลอย่างไม่หยุดหย่อน
มีทั้งโชคดีและโชคร้ายคอยเคียงข้าง
มีทั้งความเป็นและความตายให้นึกถึง
เราไม่ได้ว่างเปล่า
แค่เต็มไปด้วยขยะที่น่ารังเกียจ
และนำกลับไปใช้ใหม่ได้เสมอ
ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้
เราใช้งานขยะที่เรียกว่าความสามารถ
ขยะที่เรียกว่าการทำประโยชน์
ขยะที่ไม่ยอมรับการเป็นขยะของตัวเอง
น่าเจ็บปวดดีจริงๆ เลย
การเป็นความผิดพลาดของระบบที่ดี
สังคมจำเป็นต้องคัดแยกขยะสินะ
คัดเราออกจากสังคมก็เป็นแนวคิดไม่เลว
ถ้าสังคมไม่มีการแบ่งแยก
ก็ไร้ระเบียบสินะ
ถ้ามีสิ่งที่เชื่อมโยงถึงกันได้
อะไรที่มีอิทธิพลต่อผู้คนได้
การหวังที่จะมีชีวิตที่ดีและเป็นสุข
ค่านิยมที่ดีสินะ
ถ้าเรามีสิ่งนั้นก็คงเข้าร่วมกับผู้อื่นได้
เราควรจะนิยามสิ่งที่ดีให้ตรงกับสังคม
เพราะสิ่งที่ดีของเรามันเลือนลางเกินไป
มองไม่เห็นเป็นรูปธรรม สื่อออกมาได้แย่มาก
ต้องปรับเลนส์ตาให้ตรงกับภาพรวม
ต้องมองเห็นแบบที่คนอื่นเห็น
มีตาร่วมกับผู้อื่น ก็จะเชื่อมโยงถึงกัน
แบบว่าคุยกันรู้เรื่องละมั้ง
แค่ต้องทิ้งเลนส์ตาสกปรกนั่นไปซะ
เห้ ต้องควักตาออกมาไหมนะ
ไม่ใช่ๆ ต้องล้างตาต่างหากล่ะ
ตาสกปรกอย่างร้ายแรงเลยสินะ
ถึงได้เลิกมองอะไรๆ ไปซะเฉยๆ
การมองเห็นแบบนี้มันน่ากลัวจริงๆ