Wednesday, October 26, 2016

แต่​ก็งั้นๆ แหละ

ก็นะ เขียนแต่เรื่องแย่ๆ มาพอสมควร
อยากจะลองสะสมโพสต์ดีๆ ดูบ้าง
ถึงจะยากซักหน่อย กับคนแบบนี้
เรื่องไม่คาดฝันในชีวิตก็พบได้ยากจริง
พอคาดเดาอะไรต่อมิอะไรได้ง่ายก็น่าเบื่อ
เพราะงั้นถึงพยายามวิ่งเข้าหาอันตราย
เผลอชื่นชมหลงใหลความสวยงามที่แสนระทม
ก็นะบางทีมันก็เหมือนกับปาฏิหาริย์, เว่อไป
เหมือนเวลาเล่นเกมแล้วเจอบักแปลกๆ
เช่น​ลงไปแช่ออนเซ็นทั้งชุดยูนิฟอร์มทำงาน
แถมยังลงไปแบบเป็นส่วนเกินซะด้วย
เป็นบักแค่ชั่วครู่ มาให้ตกใจเล่นแต่แอบฮา
แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องดีซะเท่าไหร่

ภาพความทรงจำที่เลือนลางในสมัยเรียน
เคยทำรายงานความสุข..แบบว่าลิสต์ๆๆๆ
ในแต่ละวันว่า..อะไรเป็นความสุข
แม้เพียงเรื่องเล็กน้อยอย่างเช่นชื่นชมใบไม้ร่วง
เมื่อก่อนนั้นเรามีความสุขง่ายขนาดนั้นเชียว
จำไม่ได้เลยว่าเคยเป็นคนแบบไหน
มีชีวิตและคิดอะไรยังไง
เป็นไปได้ว่าก่อนหน้านี้ อาจเป็นคนละคนกัน
ก็ว่าอยู่ ตั้งแต่ที่ได้ดูวิดีโอ​ความสิ้นหวัง
ซะเมื่อไหร่..เพ้อเจ้อ​ ผสมโรงกับอนิเมะ
เราก็สิ้นหวังมาตลอดอยู่แล้วล่ะ
ถึงจะรู้สึกว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนก็ตาม
ได้มีชีวิตดีๆ ในสังคมดีๆ เพื่อนดีๆ ครูดีๆ
มีญาติเยอะแยะ คอยให้ความช่วยเหลือกัน
ถึงจะเยอะจนรก เยอะจนรำคาญลูกกะตา
เยอะ​จนหนักหูหนักสมอง +0+
แต่ก็คงจะพอเอาไปทำอะไรได้บ้าง
อย่างเช่น เก็บไว้เวลาหิว หรือเปล่า​นะ
ข้อดีของญาติเยอะๆ คือมีอะไรกินใหม่ๆ
ค้นพบความอร่อยจากอาหารหลากหลาย
อาจจะแค่ไม่ก็เมนู แต่รสชาติก็แตกต่างได้
ตามสถานการณ์ ตามอารมณ์​คนรับประทาน
แหม ใช้คำสุภาพจัง อย่างกับคนมีมารยาท
กำลังเขียนเรื่องดีๆ ก็ชวนตัวเองทำเสียเรื่องได้
มันก็เริ่มจะน่าเบื่อที่จมอยู่ในความสิ้นหวัง
ถึงจะสิ้นหวังแต่ก็ยังสนุกไปกับมันได้
แต่พอน่าเบื่อ อะไรๆ มันก็น่าเบื่อไปหมด
แม้แต่กับความสิ้นหวัง ก็ยังน่าเบื่อ
แค่คิดอะไรเล่นๆ ก็น่าเบื่อ ไม่คิดก็เบื่อ
อยากจะลองตาย ซ้อมตายเล่นๆ ก็เบื่อ
ที่น่าเบื่อที่สุดก็เสียงของตัวเอง

เสียงของผู้คนที่เกิดจากความไม่ตั้งใจ
เช่นเสียงฝีเท้าเดิน เสียงกระแทกข้าวของ
หรือเสียงถอนหายใจสั้นๆ หรือยาวๆ
เสียง​เหล่านั้น​  ช่างน่ากลัวและรบกวนจิตใจ
ก็นะ ถึงจะไม่รู้ว่าจิตใจมีอยู่จริงหรือเปล่า
แต่รู้สึกว่าคนทั่วไปจะใช้คำนี้จนคุ้นล่ะ
ถ้ามีจิตใจแล้วดี ก็คงจะสมควรมีละนะ

ทำไมเราถึงได้เหมือนกับเด็กแรกเกิดเลยล่ะ
ไม่รู้​เรื่อง​รู้​ราว​อะไร​จนน่ารำคาญเป็นบ้า
หรือว่าแค่ป่วยจนสมองฟั่นเฟือน
แต่ก็ยังพอจำตัวเองได้บ้าง
ถึงจะรู้สึกมึนๆ เบลอๆ เหมือน​ไม่สบายตลอด
ความทรงจำก็สับสน แต่คงปกติละนะ
เพราะเราไม่ถนัดเรื่องการลำดับเวลา
อาจจะเห็นเพื่อนมหา'ลัยเป็นเพื่อนอนุบาล
ถึงจะว่าก็ว่าอาจจะจำคนอื่นได้หรือไม่ได้เลย
เพราะเราก็คงมัวแต่สนใจตัวเอง
มัวแต่คิดอะไรจนไม่สนใจใครเลย
มัวแต่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกของตัวเองคนเดียว
คนแบบเราถึงไม่สมควรจะมีเพื่อน
เราไม่เหมาะสมกับการมีชีวิตที่ดีจริงๆ ล่ะ
อยากจะทำใจยอมรับชีวิตแย่ๆ ให้ได้
เพราะเราก็สมควรได้รับเท่าที่เราสมควร
คนอื่นที่เค้าดีๆ ก็สมควรได้รับสิ่งดีๆ
และเราก็คงไม่สนใจอะไรกับชีวิตดีๆ ของใคร
เหมือนกับว่า​เราไม่ได้อยู่ร่วมโลกกันซะงั้น
โลกของเรานี่มันช่างห่างไกล

อ้า แบบนี้ใช้การเขียนถึงสิ่งดีๆ ไหมนะ
ลึกๆ แล้ว เรานิยามคำว่า ดี แบบไหนกัน
สงสัยมาตลอดว่ามันจะไม่มีอยู่จริง
ถึงจะนิยามไปก็ไม่เชื่อมันอยู่ดี
คำนิยามมันจะซึมซับเข้าไปทางไหนกัน

เราคิดอยู่เรื่อยว่าความตั้งใจมีอยู่จริงไหม
หมายถึงเจตนา หรือความปรารถนาจะทำอะไร
สิ่งเหล่านั้นเป็นไปได้ยังไงกัน
ตัวเรา สังคม หรือโชคชะตาที่กำหนด
เรามีความสามารถในการตัดสินใจจะทำหรือไม่
ถึงจะตั้งคำถามไป แต่กลับลังเลที่จะหาคำตอบ
เพราะกลัวสินะ กลัวจะเป็นแบบที่เรากลัว
กลัวว่าจะไม่อิสระต่อการตัดสินใจที่จะทำ
แต่ความเชื่อกับความจริงมันต่างกัน
และเราควรจะซื่อตรงกับสิ่งไหนมากกว่ากัน

ไม่อยากจะคิดเลย
ทั้ง​ที่เหมือนจะต้องการอิสระ
แต่กลับเลือกจะให้สิ่งอื่นมากำหนดการกระทำ
ถึงอย่างนั้นก็มันจำเป็น
ที่จะต้องขยับไปตามแรงขับที่ใหญ่กว่าตัวเอง
แม้สิ่งนั้นจะเป็นความสิ้นหวังก็ตาม
ถ้าผู้นำสังคมสิ้นหวัง เราก็ต้องทิ้งความหวังไป
เราคิดว่ามันเป็นกฏเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติตาม
การต่อต้านสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นทำได้ยาก
เพราะความกลัวมันน่ากลัวเหลือเกิน
ถ้าเรามีความกล้าสักนิด
แต่ถึงอย่างไรความโง่ก็ครอบงำอยู่ดี
คนโง่ที่กล้าก็คือ คนบ้าดีๆ นี่เอง แบบนี้สินะ
หรืออีกนัย ก็แค่คนหน้าด้านคนหนึ่ง
ถึงจะโผล่พ้นจากความกลัวได้ก็ยังมาเจอความโง่
มีอุปสรรคหลายด่านให้ต้องผ่านไปสินะ
แต่ก็ไม่จำเป็นต้องผ่านไปสักหน่อย
ถ้ามันยากนักก็เลิกเล่น ปล่อยเกมโอเวอร์ซะเลย
เป็นวิธีสิ้นคิดดีเหลือเกิน
ทางออกของชีวิตคงไม่ง่ายเหมือนในเกม
ไม่จบภาคจบเรื่องเหมือนอนิเมะ
หรือจะจบก็มีภาคต่อไม่สิ้นสุด
น่าเบื่อชะมัดที่มีตัวเองเป็นตัวเอกในเกมจริง
เอ้ย​ชีวิตจริง ถึงจะแอบสับสนปนกันบ่อยๆ

ถ้าเราลืมภาคก่อนๆ ของตัวเรา
ก็คงน่าเสียดายในความพยายาม
เสียดายต่อสายสัมพันธ์ต่อผู้คนหรือสัตว์
ถึงเราจะไม่อยากเชื่อมโยงกับอะไร
อยากจะสลัดทุกอย่างออกไปก็สูญเปล่า
เราไม่อาจมีตัวตนโดยปราศจากสิ่งรอบตัว
ถึงจะเห็นเป็นเพียงที่ว่างหรือสิ่งเปรียบเทียบ
แต่ก็ขาดไม่ได้ จำเป็นเสมอ คงจะสำคัญ
ถึงตอนนี้จะยังไม่ค่อยเข้าใจอะไร
ไว้สมองดี อารมณ์​ไม่ป่วย ใจปกติ
คงจะคิดอะไร​ดีๆ ได้เยอะขึ้น
ยังสรุปอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ตราบใดที่ยังไม่จบเกม
หรือจบชีวิตนะ

ถ้าเราจะมีหวัง
มันคงจะต้องดีกว่าความหวังที่ผ่านมา
ถ้าเราจะสิ้นหวัง
มันคงจะต้องสิ้นหวังยิ่งกว่าที่แล้วๆ มา
ชีวิตที่ยากขึ้น ก็คงเลื่อนระดับไปตามเลเวล
อาจจะยอมจมอยู่กับเลเวลเดิมๆ
เพื่อเพิ่มพูนค่าประสบการณ์
ไม่ว่าจะทิ้งเวลาไปกับอะไร
มันก็ไม่เคยสูญเปล่า
ถ้า​เป็นไปตามกฏแห่งกรรม
แรงกระทำใดๆ ก็เป็นไปตามแรงกระทำ
ที่เคยกระทำไว้ก่อนหน้านั้น
ลงแรงไว้แบบไหน ก็ได้ผลเท่านั้น
มันควรจะน่าสิ้นหวัง ถ้า​ไม่ได้ลงแรงอะไร
มันควรจะน่าสิ้นหวัง ถ้าไร้เรี่ยวแรงจะทำ
เราสมควรที่จะได้รับความสิ้นหวังหรือไม่นั้น
แม้แต่ตัวเราก็ตัดสินไม่ได้
เพราะเราไม่รู้จักตัวเองดีพอ
ไม่พยายามที่จะรู้จัก
ได้แต่กีดกันและผลักไสตัวตนและการดำรงอยู่
ยากเหลือเกินที่จะค้นพบความจริง
เกี่ยวกับตัวเอง เกี่ยวกับ​โลกใบนี้
ยากที่จะเปิดใจยอมรับ
ยากที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ถ้ามีสูตรให้ใส่ได้ แต่แอบโกงชีวิต คงไม่ดี
มันคงจะง่ายไปและเบื่อได้ง่ายๆ ทิ้งได้ง่ายๆ
ถึงอยากลองเล่นการไม่มีชีวิต
แต่เล่นกับสิ่งที่อยู่เหนือตัวเองแบบนั้น
จะถูกเล่นงานเอาได้นะ

อยากจะนอนหลับไปและตื่นมาพร้อมกับ
การเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้น
เป็นความหวังที่สมควรได้รับหรือไม่นั้น
ใช่เรื่องที่เราจะมาตัดสินได้อย่างนั้นหรือ

ยอมรับว่าการคิดเกี่ยวกับความหวัง
ทำให้ชีวิตดำเนินไปได้ด้วยดี
แต่การคิดถึงตัวเองไม่เป็นไปแบบนั้น
มีแต่ความผิดพลาด มีแต่ความอ่อนแอ
มีแต่สิ่งที่ต้องแก้ไขแต่ทำไม่ได้ในทันที
เราไม่มีกำลังมากพอจะทำหรอกนะ
และคงให้ใครมาทำแทนไม่ได้
ถึง​ได้ไม่ยอมรับการมีอยู่ของผู้คน
เพราะมันเป็นภาระที่หนักหนา
ถ้า​ยอมรับว่าผู้คนกำลังเป็นทุกข์และเจ็บปวด
ตัวเรา ไม่มีกำลังมากพอที่จะช่วยใคร
ไม่มีแม้แต่ความหวังใดใดที่จะเป็น

เพราะขี้ขลาดและยินดีที่ไม่ได้รับอะไร
ยินดีต่อการสูญเสียผู้อื่น
ยินดีต่อการทำผิดต่อผู้อื่น
และสิ่งเหล่านั้นคือความผิดพลาด
ถึงจะไม่ยอมรับแต่การกระทำก็คือยินดี
เมื่อไหร่ที่เผลอมีความสุข
ถึงได้รู้ว่าเรากำลังยินดีต่อความทุกข์ยาก
ต่อความเจ็บปวดของผู้อื่น
โดยไม่ได้ให้การช่วยเหลือแบ่งเบาอะไร
ความสุขของเราจึงเป็นความผิดพลาด
เราถึงได้มีชีวิตแย่ๆ แบบนี้
เพราะเรายินดีที่จะเห็นความย่อยยับอับจน
ไม่ว่าจะของใครหน้าไหนทั้งนั้น
และเพื่อปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวด
ก็เลือกที่จะไม่ยอมรับตัวตนที่เจ็บปวด
ไม่ยอมรับ​ว่าผู้อื่นมีอยู่จริง
แค่กลไกปกป้องตัวเอง
สิ่งนั้นก็นำมาย่อยยับมาสู่