เราคิดว่าการร้องไห้น่ะ
เป็นการระบายความเย็นออกมาจากร่างกาย
เพราะฝนตกและเราซึมซับความเย็นเข้าไป
ก็เลยเกิดเป็นน้ำออกมาจากตาสินะ
ร้องไห้เสร็จแล้วก็หัวเราะได้ทันที
นี่เราเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่านะ
เพราะว่าเราไม่รู้อะไรเลย
และยังไม่เข้าใจอะไรอีกด้วย
เวลาที่ได้ขมวดคิ้วจนแทบจะชนกัน
บางทีก็เหมือนจะสนุกดีเหมือนกัน
เราคงอยู่ข้างความสิ้นหวังมากกว่าสินะ
เพราะเราผิดเอง ทุกอย่างเป็นความผิด
เราไม่อยากอยู่ในโลกที่ผิดๆ
อยู่กับสองดี อยู่กับแปดบิท
เราชอบอยู่ในโลกอื่นมากกว่า
เราไม่ได้อยู่ในโลกนี้
เหมือนกับว่าตายไปแล้วนั่นแหละ
แต่ก็ตายแบบสุกๆ ดิบๆ
กึ่งตาย กึ่งอยู่ละมั้ง
มีแค่ชีวิตครึ่งๆ กลางๆ
เดี๋ยวเป็นคน เดี๋ยวเป็นหมา
เอ้ย เป็นผีสิเฟ้ย
นี่ขำหรือเปล่าเนี่ย แฉะเลย
หมายถึงน้ำตาที่ไหลนองหน้านะ
โลกใบนี้ไม่มีอยู่จริงสินะ
ยังไงก็ทำใจเชื่อไม่ได้
ไม่อยากจะเชื่อว่ามีอยู่
เชื่อแบบนั้น น่าจะดีกว่าแท้ๆ
ต้องมีชีวิตแย่ๆ สิดีกว่า
เราชอบจมอยู่ในความสิ้นหวัง
ความว่างเปล่าที่มองไม่เห็นอะไร
มันสวยงามและน่าหลงใหล
ถึงจะรู้ว่าเป็นสิ่งไม่ดีก็ตาม
เราเลิกเคารพกฏเกณฑ์
สละความเป็นคนที่ดีออกไป
นั่นคือวิถีของคนตายซาก
เราหลบหนีจากโลกจริง
เพื่อจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด
แต่ระหว่างวิ่งหนีไป
ก็เกิดสะดุดล้มจนเป็นแผลขึ้นมา
แผลที่น่าเกียจเต็มไปหมด
เน่าเฟะจนเหมือนกับศพ
เห้อ บรรยายซะ น่ากิน
นี่เราเป็นบ้าจริงๆ สินะ
ก็ไม่ค่อยรู้ตัวเองหรอก
ชอบเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้
แม้แต่กับตัวเอง
และบางทีก็ไม่ชอบเป็นอะไรเลย
อยากจะสลัดออกไปก็ไม่พ้น
นี่คือชีวิตที่น่าผิดหวัง
คือความบัดซบอย่างแท้จริง
จะใช่แบบนั้นไหมนะ
ถึงจะเขียนประจานตัวเองไป
ความผิดก็ไม่ได้ลดลงหรอกนะ
เราเข้าใจจริงๆ หรือเปล่านะ