วิธีคิดแยบคายตามแนวทางพุทธหรือโยนิโสมนสิการ เป็นเรื่องที่สมัยเรียนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจดีนักว่า มันคืออะไร? ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีหลักการเหล่านี้ และมันมีไว้ทำอะไร? จนเมื่อยอมรับว่าการมองสิ่งต่างๆ ให้เห็นสิ่งนั้นๆ ตามสภาวะและตามความสัมพันธ์แห่งเหตุปัจจัยเป็นสิ่งสำคัญ
วิธีคิดหาความจริงในทางพุทธ มี 10 วิธี ดังนี้
- คิดจากเหตุไปหาผล
- คิดจากผลไปหาเหตุ
- คิดแบบเห็นความสัมพันธ์ต่อเนื่องเป็นลูกโซ่
- คิดเน้นเฉพาะจุดที่ทำให้เกิด
- คิดเห็นองค์ประกอบที่มาส่งเสริมให้เจริญ
- คิดเห็นองค์ประกอบที่มาทำให้เสื่อม
- คิดเห็นสิ่งที่มาตัดขาดให้ดับ
- คิดแบบแยกแยะองคืประกอบ
- คิดแบบมองเป็นองค์รวม
- คิดแบบอะไรเป็นไปได้ หรือเป็นไปไม่ได้
(อ้างอิงจากวิกิพีเดียไทย)
ดังนั้น นอกเหนือไปจากสิบวิธีข้างต้น ไม่นับเป็นวิธีคิดหาความจริง อาจเป็นความฟุ้งซ่าน เพ้อเจ้อ หรืออะไรก็ตาม แต่ยอมรับว่า ทั้งสิบวิธีดังกล่าวก็ยังคลุมเครือ ไม่ค่อยเข้าใจดีนักในบางวิธี หรืออาจจะทั้งหมด อีกทั้งศาสนาพุทธไม่เน้นฝักใฝ่ทางปรัชญา ไม่เน้นให้คิด เน้นให้ปฏิบัติมากกว่า
แต่ก็ยังเป็นประเด็นที่สับสนอยู่ดีว่า เป้าหมายสูงสุดของพุทธศาสนาคืออะไรกันแน่ ระหว่างความจริง ความดี ความสุข บางคนก็ว่านิพพาน แล้วนิพพานคืออะไร คือความหลุดพ้น (หลุดพ้นจากทุกข์=สุข??) หรือนิพพานคือความจริงสูงสุด หรือความดีสูงสุด หรือพระเจ้า หรือความตาย
สุดท้ายแล้วก็อาจจะให้กลับมาอยู่กับตัวเอง เป้าหมายของตัวเอง เป้าหมายในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เพราะการหลุดพ้นเป็นลักษณะปัจเจก มาคนเดียว ไปคนเดียว อะไรแบบนี้หรือเปล่า เหมือนตายไป ก็ไม่ได้ลากไปหมด ทั้งเพื่อนฝูง ญาติมิตร ครอบครัวก็ยังอยู่ กลายเป็นชีวิตต่างภพ ต่างสภาวะต่อกันและกัน กระมั้ง
จุดกำเนิดของศาสนามาจากความกลัวของมนุษย์ หากไม่มีความกลัว ศาสนาก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แต่ทุกวันนี้ คนเรามักไม่ยอมรับในความกลัว พึ่งพาเทคโนโลยี ติดความสบายทางกายจนมองไม่เห็นความทุกข์ทางใจที่ฝังรากลึก คนที่ไม่มีความกลัว ก็ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมีศาสนา ยอมรับเถอะว่ากลัว ยอมรับเถอะว่าโง่ ยอมรับให้ตัวเองก้าวข้ามความเป็นสัตว์เดรัจฉาน แม้ว่ามันจะยาก
โยนิโสมนสิการแบบมีภาพประกอบ https://www.gotoknow.org/posts/180262
วิดีโอเสียงอ่านหนังสือคู่มือมนุษย์ https://youtu.be/_CClUW2s0iw
---------------------------------------------------------
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3#cite_note-2, สืบค้นเมื่อวันที่ 24/10/58