Saturday, October 17, 2015

คิดให้ได้อะไร? -- เฉลยคือ(ไม่ต้องกลับหัว)ให้ได้คิดต่อ..

นั่งอยู่ในท่าครุ่นคิดตั้งนาน  ดูเหมือนว่าเราจะทำได้เท่านี้
การคิดไปเรื่อยๆ ไม่ใช่กิจกรรมที่มีสาระอะไรมากมาย
ไม่ใช่กิจกรรมที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนอีกด้วย
ที่สำคัญ ก็อาจจะไม่เป็นประโยชน์อะไรต่อโลกใบนี้
ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้คน สัตว์ พืช ระบบนิเวศหรืออะไร

การสมมติตัวเองเป็นนักปรัชญาไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษ
เพียงแค่เชื่ออะไรสักอย่าง เพียงแค่ลงมือทำอะไร ยังยากเลย
ได้แต่ริลอง ได้แต่หาหนทางใหม่ๆ ได้แต่เดินฝ่าความมืดไป
ทำใจสงบ ทำใจเย็น ก็ถูกท้าทายด้วยวิถีที่แตกต่างของผู้คนทั่วไป
จนสุดท้ายก็ได้ทำความรู้จักกับความร้อนที่ยิ่งกว่าเปลวไฟในใจเรา

กิจกรรมทางปรัชญาไม่ใช่การให้ความรู้หรือให้คำปรึกษา
แต่เป็นการหาคำตอบในสิ่งซึ่งคนทั่วไปได้ละเลย
ก็ย่อมต้องเป็นการเบียดเบียนค่านิยม-ความเชื่อของคนส่วนใหญ่
สิ่งที่นักปรัชญาทำก็ไม่ต่างอะไรจากการอุดรอยรั่วหรือปะยาง
ถึงทำไปแล้วก็ไม่มีใครเห็นหรือมายินดีอะไร
เพราะงั้นก็เป็นแค่กลไกหรือซอฟต์แวร์ที่มองไม่เห็น

-- มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่คิดหาคำตอบกับเรื่องพวกนั้น
ก็แค่ความคิดบ้าๆ เอามาพูดจาเป็นหลักการให้ดูน่าเชื่อถือ --
บางคนก็คิดว่าปรัชญาเป็นแบบนั้น แม้แต่เราเองยังเคยคิดเลย
อย่างเช่น มีคนบอกว่า โลกและมนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาจากปีศาจร้าย
โดยอ้างประพจน์ที่มีแต่ข้อเท็จจริงมาร้อยเรียงกันจนสอดคล้องอย่างน่าเชื่อ
ถ้าคนอ่านหรือคนฟังเรื่องราวขาดวิจารณญาณคงจะเชื่ออย่างเหลวไหล
ซึ่งผลจากการเชื่อนั้น อาจทำให้เราคลั่งหรือเป็นบ้าไปเลยจริงๆ

ถึงอย่างนั้น กิจกรรมทางปรัชญาก็ไม่ใช่แค่สรุปเรื่องราวอะไรส่งๆ
ยอมรับว่า ความใจร้อนของคนทำให้เราสรุปอะไรไปรวดเร็วได้ง่ายๆ
ซึ่งบางทีกลายเป็นอคติ กลายเป็นมองอะไรด้วยกรอบที่มีอคติ
การสรุปอะไรๆ ก็ตาม จำต้องถอดกรอบแห่งอคติทั้งหลายออก
มองด้วยใจที่เป็นกลาง ให้ความยุติธรรมต่อผู้อื่นและตัวเอง

ตัวเรานั้นอาจจะไม่ใช่ผู้รอบรู้ ไม่มีหลักการที่น่าเชื่อถือมาอ้างอิง
ทำให้กิจกรรมปรัชญาของเรา ยังเป็นเพียงการเริ่มต้นแบบดาษๆ โง่ๆ
การหาคำตอบในสิ่งที่คนอื่นละเลย คือการมองหาแต่เรื่องที่คนอื่นไม่คิด
ทำให้กลายเป็นต่อต้านคนอื่น เหมือนเป็นปรปักษ์ต่อผู้คนไปเลยซะงั้น

จะให้พูดถึงปรัชญา ก็ว่าได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับเราเลือกจะเสนอมุมไหน
ยังคงใช้วิธีเดิม มองมุมกว้าง แล้วสโคปมาให้แคบลง ส่วนรายละเอียดยังยากเสมอ

ไม่มีไรมาก แค่ได้ไพ่ Justice เลยทวงถามความยุติธรรมจากตัวเอง?
พูดถึงสาเหตุที่เราสนใจไพ่ทาโรต์เนี่ย  เกิดเพราะอยากแต่งนิยาย..
แม้แต่การเรียนปรัชญา  ถ้าไม่ใช่เพราะแต่งนิยาย ก็คงเลือกวิชาชีพดีกว่า
บางทีชีวิตก็สั้นลง เพราะอยากแต่งนิยาย ช่างไม่ยุติธรรมเลย.. เรอะ!?!