Tuesday, November 08, 2016

โพสต์นี้ได้ทำหน้าที่ของมันหรือเปล่า?

I write อะไร
ฉันเขียน A LIFE
ฉันไร้อะไร
ฉันไลค์อะไลฟ์
ฉัน ฉัน ฉัน​ ไอ ไอ ไอ..

นี่มันบล็อกที่มีไว้เอื้ออัตตานี่หน่า
แต่ไม่ว่าจะที่ไหน ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม
เรา​เติบใหญ่​ไปพร้อมกับอัตตา
และไม่รับรู้เลยว่าได้เติบโตขึ้นบ้างไหม

ถึงคำว่า 'เรา'​ ที่ชอบใช้จะมีความหมายกว้าง
บางครั้งก็เผลอลากเอาคนอื่นมารวบด้วย
แม้แต่มวลมนุษยชาติหรือสรรพสัตว์ทั้งปวง
เสมือนหนึ่งตัวตนหลอมรวมมาจากสรรพสิ่ง

เราตระหนักว่า ตัวเอง​นั้นอ่อนแอ และ
ต้องการที่จะหลอมรวมไปกับตัวตนที่เข้มแข็ง
และตระหนักว่าช่วงเวลาทุกข์ใจนั้นสำคัญ
ช่วงเวลาที่ได้ตระหนักถึงการทุกข์ร้อน
เห็นอาการป่วยอ่อนแอของชีวิต
เพื่อให้เห็นความสำคัญของความเข้มแข็ง
ทะเลาะเบาะแว้ง​กับตัวเอง
เพื่อให้กลับไปคืนดีกับสังคมที่หลบเร้นมา
อาจจะเป็นแบบนั้น หรืออาจจะไม่ใช่

ทั้งที่ชอบคาดเดาอนาคตในหลายๆ แบบ
แต่ก็จำเป็นต้องมีที่ว่างไว้ให้กับความเป็นจริง
แม้จะเว้นว่างไว้ แต่ก็อาจจะไม่ได้เติมมันลงไป
ทางเลือกที่มองเห็นและไม่เห็นเหล่านั้น
ในที่สุด​แล้วจะเป็นประสบการณ์และบทเรียน
ตราบเท่าที่​ยังมองหา ยังลืมตาดู

เฉกเช่นปัญหาและความเจ็บปวด
ความเจ็บปวด​นั้นเป็นประสบการณ์ส่วนตัว
แม้ว่าในโลกนี้จะมีเครื่องมือบรรเทาเจ็บมากมาย
แม้ว่าโลกนี้จะมีหลักการให้พ้นทุกข์มากมาย
แต่ไม่มีสิ่งใดมาชี้วัดคุณภาพ-ปริมาณของทุกข์
ไม่มีเครื่องมือที่ทำให้เรารู้จักความเจ็บปวด
แต่ละคนรับรู้​ความเจ็บปวด​ต่าง​กันออกไป
บางคนอาจเจ็บแม้เพียงเห็นเงาของมีด
บางคนอาจไม่เจ็บเลยแม้มีดแทงเข้าตัว

นอกจากนี้​ยังสัมพันธ์กับความกลัว
น่าแปลกที่เมื่อกลัว เจ็บกว่าตอนที่ไม่กลัว
ทั้งที่รูปแบบของแผลเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน

เมื่อเราเห็นผู้อื่นเป็นทุกข์จากความกลัวแล้ว
ก็อดไม่ได้ที่จะกังวลและเจ็บปวดในระดับหนึ่ง
บางทีที่รู้สึกได้ว่าความกลัวและความเจ็บปวด
มากระจุกรวมอยู่ที่ท้อง หมุนเกลียวเป็นห้วงน้ำวน
และยังทำให้ลำไส้ร้องโครกครากในเวลาต่อมา

รู้ทั้งรู้ แต่ก็ยังใช้ชีวิตอย่างอับจนหนทาง
เหมือนมีกุญแจหลายดอกที่จะไขออกจากปัญหา
แต่มือกลับกุดลง หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงฉับพลัน
ถึงอย่างนั้นก็ยังมีขา มีแขน มีอื่นๆ ที่ยังดีอยู่
แค่เพียงยอมรับไม่ได้ ก็เลยไม่ก้าวเดิน

ยกศัตรูขึ้นมาเป็นข้ออ้างว่า ไม่ควรต่อต้าน
ไม่ควรสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น
เหมือนจะทำใจยอมรับ แต่ที่จริงก็คือยอมแพ้
ยอมที่จะถูกปลดออกจากการแข่งขัน
แม้จะเป็นการแข่งขัน​ที่เดิมพันด้วยชีวิตก็ตาม

ความพยายามที่ไร้เป้าหมายย่อมไร้ประโยชน์
เราไร้ค่า เมื่อไร้เป้าหมายที่จะทำอะไร
ไร้เป้าหมาย เพราะไร้สิ่งสำคัญในชีวิต
ชีวิตก็เลยเหมือนจะไร้ชีวิต
หาความเป็นชีวิตไม่ได้

แต่​อาจจะ​มีความหมายอะไรเบื้องหลัง
เช่น พบชีวิตจากการไร้ชีวิต
หรือพบเป้าหมานจากการไร้เป้าหมาย
พบสิ่งสำคัญจากการไร้สิ่งสำคัญ
พบความพยายามจากการไร้ความพยายาม

ในเมื่อสองสิ่งตรงข้ามกลายเป็นหนึ่งเดียวได้
ตัวเรา​กับจักรวาลก็อาจจะเป็นได้เช่นกัน
ถ้าสรรพสิ่งเคลื่อนไปตามแรงโน้มถ่วง
กฏแห่งกรรม หรือกฏการเกิดซึ่งเหตุและผล
ก็ต้องมีกฏอะไรบางอย่างที่คุมเราอยู่
เมื่อเราค้นพบและยอมรับกฏนั้น
ชีวิตเราก็จะเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง
ที่อยู่ภายใต้กฏเดียวกันนั้นเอง

(ถึงจะยังสับสนว่า กฏ สะกดด้วย ฎ หรือ ฏ)

เพื่อที่จะรับรู้ถึงกฏนั้น
เราจำเป็นจะต้องเปิดประสาทรับรู้ทั้งหมด
หู ตา จมูก ปาก กาย ใจ วิญญาณ​
เท่าที่จะทำได้ละนะ
อะไรที่ยากเกินไป ต้องใช้เครื่องมือเยอะๆ
ยิ่งควบคุมและใช้เครื่องมือได้คล่อง ยิ่งได้เปรียบ
เอาหูไปกระแทกใส่ฝูงชนให้เจ็บกันไปข้างหนึ่ง
ก็จริงที่เครื่องมืออาจนำความเจ็บปวดมาสู่
ถ้าเรายึดมั่นในความเป็นเครื่องมือทำร้ายแล้ว
มันก็จะนำไปสู่การทำร้ายขึ้นมาได้จริงๆ
เลนส์กล้องที่สกปรกก็ถ่ายติดภาพเลอะๆได้
หมั่นตรวจสอบไม่ให้เครื่องมือบกพร่อง
ในหน้าที่ดั้งเดิมของตัวมันเองก็ละนะ
ถึงจะลืมไปแล้วว่าโทรศัพท์เอาไว้ใช้โทรก็เถอะ

จูบ.. //จีบ จบ จับ จิบ เจ็บ //..จ๊าบ
จบแบบแปลกๆ แฮะ
แค่เติมสระเพิ่มไปไม่กี่ตัวเอง