Tuesday, October 18, 2016

ความสับสนครั้งยิ่งใหญ่

ในที่สุด​ก็​เข้าใจว่าทำไมเราถึงได้เกลียดสิ่งนั้น
เพราะ​มันคาดเดายากเกินไป
ความผิดพลาด​ที่อาจจะเกิดขึ้นมีเยอะเกินไป
เข้าใจว่าทำไมถึงมีคนบอกว่ามันยาก

เพราะ​เราอคติกับสิ่งที่ดูลบมาตลอด
แต่ที่แท้สิ่งเหล่านั้นคือตัวเรามากกว่า
มันมีอยู่โดยที่เราไม่ทันสังเกต
มันเคยเป็นสิ่งที่น่ากลัวเกินไป

เราเกลียดข้อความทั้งหมดบนโลกนี้
มันได้บิดเบือนความจริงไปหมด
ตั้งแต่การเริ่มต้นมีอยู่ของมัน

แต่นั้นก็หมายความอีกอย่างว่า
เราโง่เกินกว่าที่จะสื่อมันออกมาได้ทั้งหมด
ถึงอย่างนั้น ถ้อยคำ​ก็​ยังมีพลังอยู่
แม้ว่ามันจะถูกส่งออกมาแบบโง่ๆ

ถ้อยคำ​ที่​ฝังหัวของเราเอาไว้
มันเกิดการเปลี่ยนแปลงไป
มันไม่หยุดนิ่งง่ายๆ
ทำให้เราสับสนบ่อยๆ
บางครั้งก็ทรมานเรา
บางครั้งก็ชวนให้สนุกสนาน
และมันยังกักขังเราเอาไว้
ทำให้รู้ซึ้งถึงพลังของถ้อยคำ

อย่างเช่น สมัย​อ่านหนังสือฮาวทูบ่อยๆ
จะมี​คำว่า ความหวัง​ ความกลัว
วิกฤติ​ โอกาส การเรียน​รู้ พัฒนา​
ทั้งหมดนั้นก็เพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง
ตัวเราที่ค้นพบการใช้งานตัวเองได้
จะ​เป็น​ที่​ต้องการ​มากขึ้น
จะได้รับการยอมรับให้ทำหน้าที่
ทำงานเพื่อตัวเองและคนอื่น
การทำหน้าที่เป็นงานที่แสนสำคัญ

แต่ไม่นาน โครงสร้างภายในก็สั่นคลอน​
เพราะ​เราไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง
เราคือฟันเฟืองส่วนไหนกัน
ของโลกใบนี้ ของที่นี่..

การที่เราเลือกโฟกัสไปที่ความคิด
มากกว่าความรู้สึก
ทำให้เราไม่ทันสังเกตความรู้สึก
ของตัวเอง  ของผู้คนรอบๆ
ในที่สุด  ทุกคนก็หายไป
ราวกับ​พวกเขา​ไม่มีความรู้สึก
ราวกับ​ตัวเราไม่มีความรู้สึก
สิ่งที่ไม่มีความรู้สึก
ไม่ต่างไปจากสิ่งที่ไม่มีชีวิต

เป็น​ความจริงที่ถ้อยคำมันแทรกซึม
เข้าไปบงการชีวิตให้ราวกับไร้ชีวิตได้
เพราะเราเชื่อในถ้อยคำที่แสนสำคัญ
แม้จะรู้ว่ามันถูกบิดเบือนมาก่อนแล้ว
ภาพของถ้อยคำที่บิดเบือนไปนั้น
มันยังคงงดงามอยู่เสมอ
ตลอดที่ในห้วงความคิดเฝ้าหา
ความปวดร้าวที่แสนจะมีค่า
ทุกเรื่องน่าปวดใจ  ทุกความเศร้า
เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ตราตรึงใจ

แม้ไม่รู้ว่าจะสวยสดงดงามไปได้อีกแค่ไหน
เราก็ยังอยากจะจดจำไว้ว่าในครั้งหนึ่ง
ได้มีความหวังในความสิ้นหวัง
และความสิ้นหวังในความหวัง
คอยต่อประกายชีวิต ที่ทั้งกลวงและล้น
ชีวิต​ที่หลอกลวงด้วยถ้อยคำ อย่างสัตย์ซื่อ

เกลียด​การพิมพ์ผิดชะมัด
เราไม่ได้คลั่งความสมบูรณ์แบบนะ
แค่มีปมกับการทำผิดมากไปหน่อย
ระหว่าง​คำว่า มีปม กับ คลั่ง
เราควรจะเป็นคนแบบไหนมากกว่านะ
มีปม ฟังดูแย่กว่าเนอะ ใช้กับน้อยกว่าด้วย
ส่วนมาก​มัก​จะ​ใช้กับเรื่องแย่ๆ สินะ
แต่​เราเชื่อว่า มันเป็นปมจริงๆ
มันไขไม่ออกเลยล่ะ เรื่องแบบนั้น
เหมือนกับว่า​เราทำผิดอยู่ตลอดเวลา
ต้องคอยระแวดระวังไม่ให้ถูกจับได้
เลยใช้สันดานดิบออกมาเยอะไปหน่อย
ที่แท้ก็เป็นคนป่านี่เอง สินะ

ความกลัวของเราก็เกี่ยวกับการทำผิด
เราจะไม่ยอมทำในสิ่งที่คิดว่าผิด
เพราะมันจะทำให้เราถูกลงโทษ
การลงโทษที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ
ถูกประจาน ใช้คำพูดกล่าวถึงแบบแย่ๆ
เพราะงั้นเราจำเป็นต้องรักษาคำพูด
รักษา​ แบบว่า ไม่ให้มันหลุดออกมา
ถ้อยคำที่อัดแน่นด้วยคำสาปแช่ง
แต่ตัวเราไม่สามารถที่จะบรรจุมันได้ตลอดไป

แค่ต้องการพื้นที่
ที่เราสามารถเทขยะเหล่านั้นออกไปได้

ไม่เช่นนั้นก็ต้องยอมที่จะถูกกลืนกิน

แต่อย่างที่ว่า ตัวเราไม่มีอะไร
ไม่มีอะไรให้กลืนกิน
ไม่มีแม้แต่สถานะบนโลกนี้
เพราะงั้น

เราก็ไม่รู้สึกถึงมันหรอก

และทุกอย่างที่เป็นความรับผิดชอบ
ทุกสิ่งที่อยู่ภายใต้เราก็คือขยะ

มันไม่ได้มีความหมายอะไร