Sunday, October 16, 2016

หลุมพราง​

พอคิดว่าจะดีขึ้นแล้วทีไร
ต้องดิ่งเหวลงไปทุกที
เพราะที่คิดว่าดีนั้น ดีแค่ลวงๆ
ดีแบบชั่วครู่ชั่วคราว
ไม่มีทางที่จะหายเลยหรือไง
ตอนนี้จับส่วนไหนของร่างกาย
มันก็ป่วยไปหมดทุกส่วนหนักกว่าเดิม
ออกกำลัง​อย่างเดียวก็ไม่พอ
ไหนจะฝนตก ไหนจะปวดท้องอีก
ต้องมีข้ออ้างให้ออกน้อยลงอยู่เรื่อย
ส่วนกำลังใจ กำลังสติก็ตกต่ำลงไปทุกที
นอนไม่หลับ​กินยาให้มันง่วง
พอง่วงกลางวันก็เริ่มซึมๆ ตื๊อๆ
พอกินกาแฟก็เริ่มตื่นๆ เริ่มมีชีวิตชีวา
ตกกลางคืนก็นอนไม่หลับ ปวดแสบท้อง
แถมด้วยหงุดหงิด อยากจะทำลายอะไรสักอย่าง
หงุดหงิด​ด้วยเรื่องเล็กน้อยจนนอนไม่เป็นสุข
ต้อง​ลุกนั่ง ต้องเดินไปเดินมาจนร้อนเท้า
ทนแสบท้องไม่ได้ ไปต้มมาม่ากิน
มีรสชาติแค่ครึ่งหนึ่งก็ต้องฝืนกิน
แต่ท้องก็ยังไม่หายปวด มีแน่นๆ
ท้องร้องเหมือนลำไส้เคลื่อนไปมาตลอด
เครียดหรือเปล่านะ แบบนี้

หัวใจ​เต้นแรง และเหมือนกล้ามเนื้อ
หรืออะไรบางอย่างในแขนมันกระตุก
หงุดหงิด​ง่าย​มาก​ เหมือน​จะตลอด

ก่อนหน้านี้​เหม็นฉี่ยายจนหงุดหงิด
ทั้ง​ที่แค่ทีเดียว คงเพราะกินยา
บางทีประสาทอาจจะถูกกาแฟกระตุ้น
รู้สึกประสาทเสียจนอยากจะเอาจมูกออก
เอาผ้าห่มพันหัวไปหลายๆ รอบให้มันอึดอัด
แต่ก็สำลักฝุ่นหรืออะไรผงๆ ในผ้า
อาจเป็นละอองผ้า หรืออะไรก็ตาม

รู้​สึกเกลียดตัวเองจนอยากจะฆ่าให้ตาย
แต่ก็กลัวเจ็บ ขนาดฝนตกฟ้าร้องยังกลัว
ทั้งที่อยากจะให้ฟ้าผ่า แต่ก็กลัวเวลาฟ้าร้อง
ทั้งที่อยากจะให้ไฟดูด แต่ก็กลัวไฟดูดไฟช็อต
ไม่อยากลังเลที่จะทำอะไรสักอย่าง
เลือกไม่ได้สักที
ว่าจะมีชีวิตหรือจะตาย

ทั้ง​ที่รู้ๆ ว่า เป็นสิ่งไม่ดี ไม่ถูกหลักทางสังคม
แต่ก็ยัง

กลายเป็น​คนไร้ประโยชน์
ไร้ความสามารถ​ที่จะทำอะไรเพื่อสังคม
สมควรที่จะรับโทษ

ความตาย
อาจจะยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับเรา
ต้องทุกข์ทรมานต่อไป
ต้องมีชีวิตราวกับอยู่ในนรก

ถึงจะไม่อยากยอมรับว่านี่คือชีวิต
เป็น​เพียงกระบอกอัดอากาศเน่าเสียเอาไว้
วิธีใช้คือ จ่อยิงไปที่หัวใครสักคน