วันนี้เราจะมาย้อนเวลากันอีกครั้ง
ไม่ใช่บ่อยครั้งที่เราจะนึกอดีตขึ้นมาได้
ถึงมันจะสมควรถูกลบออกไปจริงๆ
เพราะอดีตที่เจ็บปวดทำให้เจ็บทุกครั้งที่นึกถึง
เมื่อก่อนเราไม่เคยมีความรู้สึกโกรธ
ไม่ได้เป็นคนดีอะไร แค่ไม่อยู่ในฐานะที่จะโกรธ
ถึงตอนนี้สถานะก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก
แต่เพราะได้พบเจอคนมากขึ้นเรื่องราวมากขึ้น
ก็เรื่อยเริ่มซึมซับและรู้จักโกรธขึ้นมา
ก่อนหน้านี้เรามีแค่ความกลัว
เพียงแค่ความกลัวก็มากพอที่จะทำร้ายคนๆ หนึ่ง
ความกลัวมักจะทำให้เราหดเล็กลง
แต่ความโกรธทำให้ตัวใหญ่ขึ้น
เราจะทำอะไรไม่ได้เลย เมื่อเราสะสมความกลัว
ยิ่งกลัวมากก็ยิ่งไมาสามารถทำอะไรได้เลย
กลับกัน พอโกรธแล้วอยากทำอะไรมากขึ้น
เราเรียนรู้ในเวลาเศร้าๆ ว่าอาการซึมเศร้านั้น
มักจะเป็นอารมณ์ผสมหลายๆ อย่าง
ทั้งความกลัว ความโกรธ ความผิดหวัง
ความเจ็บปวดสารพัดอย่างที่มารวมกัน
อาการเศร้าเหมือนกับอะไรมันจะหนักๆ
มันอาจจะมีภาวะหลายอย่างสลับกันไปจนสับสน
มันขัดแย้งกันเอง จะทำอะไรก็ลังเล คิดเยอะ
คิดมากจนความคิดหายไปจนหยุดคิดเองก็มี
ที่หนักที่สุดคือ ความรู้สึกผิดต่อทุกคนและทุกอย่าง
ไม่ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร เราก็ผิดอยู่ดี
จนต้องมีคนมาบอกว่า
'ทำไมไม่ทำอย่างนั้นล่ะ' หรือ
'ทำแบบนี้ไม่ดี ทำไม่ได้ ห้ามทำ ที่ทำมันแย่'
เราจะรู้สึกถึงถ้อยคำพวกนี้ได้รวดเร็ว
และก็อาจจะปฏิเสธได้ทันควัน
ตามกลไกการป้องกันตัวอย่างที่เป็นมา
ดูเหมือนเราละเลยที่จะทำตามคนอื่น
ละเลยที่จะทำตามคำสั่ง คำขอ หรืออะไรก็ตาม
ส่งผลให้เรากลายเป็นอริกันคนอื่น
ทุกคนต้องการที่จะควบคุมให้เราเป็นปกติ
เพราะเราละเมิดกฏของสังคมไปสินะ
เหมือนกับว่าเราทำผิดอยู่ตลอดเวลา
เราต้องขอโทษในใจและรู้สึกผิดอยู่ตลอด
มันอาจจะหมายถึงว่าเราเป็นคนไม่ดีจริงๆ
การมีความคิดหรือพฤติกรรมแบบเรา
ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
.