Monday, August 29, 2016

อัพเดตสถานการณ์ตัวเอง

เจอของที่หายพร้อมกับลาภลอย
กระเป๋า​ใส่เงินหนักอึ้ง (เหรียญ​ทั้งนั้น)
ซึ่งเป็นของตัวเองอะแหละ แต่ลืม
ใครติดหนี้เราก็สบายเลย เพราะชอบลืม
ขนาดเงินตัวเองยังจำไม่ค่อยได้
แต่ที่ว่าหาย มันก็แค่​อยู่ในกระเป๋าใบอื่น
พอกองไว้รวมกัน ก็หายซะแระ
เหมือนเอาใบไม้ซ่อนไว้ในป่า
กระเป๋า​ในกระเป๋าในกระเป๋าในกระเป๋า
ซ่อนกระเป๋าในกระเป๋าหรือยังไงกัน
ซ่อนจนลืมไปว่ามีเลยละมั้ง

ข้องใจว่าแป้นพิมพ์ หรือแอพนี้กันแน่..
ที่พอพิมพ์ๆไปแล้วมันขีดเส้นใต้ให้เอง
มาดูอีกที อ้าว​ ขีดเส้นใต้​เฉยเลย

หมียูไอมันก็อัพเดตอะไรแปลกๆมาอีก
ต้องทำความเข้าใจอะไรอีกเยอะกับเครื่องนี้

แค่เสียใจที่ไม่ได้เล่นเดอะซิมส์ในคอมเลย
แต่มีโทสับกับแท็บเล็ตก็ช่วยคลายเศร้า

เศร้าหรือเปล่านะ ชอบตั้งคำถามกับตัวเอง
ชอบสงสัยในความคิดและความสงสัย
ยิ่งสงสัยคงยิ่งใช้งานประสาทเยอะจนปสด.
ทำไมปสด.ถึงมีความหมายในแง่ลบนะ
ก็แค่เหมือนโทสับค้าง เครื่องรวน ติดมัลแวร์
หรือเปล่า​นะ หรือเปล่า​นะ หรือเปล่านะ

บางทีความลังเลสงสัยคงทำให้ใช้ชีวิตยาก
แบบว่าต้องไขปริศนาก่อนจะทำอะไรได้
คิดมากบางทีก็เปลืองพลังงานเปล่า
ควรจะประหยัดพลังสมองบ้าง พักบ้างละนะ
ใช้ความคิดมากจนลืมสังเกตความรู้สึก
บางทีความรู้สึกมากล้นหลามเพราะลืมสังเกต
ถ้าจับได้ตั้งแต่ทีแรก คงจะตั้งสติได้ดีกว่าละนะ
บางทีก็ขี้เกียจตั้งสติ ทั้งที่จำเป็นแท้ๆ
คนเราพอมีสติ ก็มีวินัยขึ้น มันก็น่าจะจำเป็นนะ
ลองไปหาวิธีฝึกสติแบบไหนดีนะ

ท่องจำก็ไม่ใช่จะดีหรอกนะ
เพราะขาดสติบ่อย เลยลืมบ่อยละมั้ง
ถ้าสติดี ก็จะจำได้แม่นกว่าด้วย

อยาก​ทำงานนอกบ้านแต่ออกไปไม่ได้เลย
ตอนนี้ยายก็นอนป่วยด้วยอาการเกี่ยวกับปส.
ยิ่งต้องการให้คนเอาใจใส่ด้วย
การเอาใจใส่คนอื่นต้องทำยังไงบ้างนะ
มันยากจริงๆ เลย
ต้องแคร์​ความรู้สึก​คนที่กำลังเจ็บปวด
ยิ่งตัวเองก็ยังปวดนู่นปวดนี่
มันเริ่มจะแยกประสาทการปวดไม่ถูก
ยิ่งสับสนบ่อยๆ ง่ายๆ เสมอๆ แต่ไม่แน่นอน
เขียนอะไรไปก็สับสนๆ อยู่​
พรุ่งนี้​ต้องไปสับสนๆ ที่อื่นอีกด้วย
แค่สับสนๆ ในบ้านก็แย่ มันสับสนเกินไป
รู้สึก​อึดอัดแน่นท้อง ทุกทีที่ต้องสับสน
ความชัดเจนในความไม่ชัดเจนมันช่างแน่ชัด
เดี๋ยว​นะ พิมพ์​อะไรที่มันสับสนๆ ออกไปเนี่ย
ยิ่งชัดเจนก็ยิ่งสับสน ยิ่งสับสนก็ยิ่งชัดเจน

แยกแยะของตรงข้ามสองสิ่งมันพิลึกไปไหมนะ
ของตรงข้ามบางอย่างก็เป็นคู่ บางอย่างก็เป็นขี้
เอ้ย มัน​ใช่เรื่องที่มานั่งแจกแจงอะไรพรรค์นี้ไหม
แต่ทำไมเวลาเขียนแล้วเหมือนได้คี่ /ขี้ปะนะ
ความไร้สาระในการเขียนเรื่อยเปื่อย
มัน​ช่างผ่อนคลายดี พอๆ กับดูหนังฟังเพลง
ที่จริงก็สามารถใช้การเขียนบำบัดได้นี่หน่า
ถึงจะเคยอ่านเรื่องทำนองนี้มานานแล้ว
แต่ก็ขี้เกียจจะศึกษาให้มันถ่องแท้
สู้มาลองเขียนลงมือแบบมั่วๆไปเลยดีกว่า
คงจะคล้ายฟรีไรติ้ง หรืออาจจะใช่ หรือไม่ใช่

แต่คนแบบนี้ แทนที่จะ​เขียนแล้วเคลียร์
กลับยิ่งสับสนหนักกว่าเดิมเข้าไปอีกแฮะ
เหมือนสมองได้รับการกระตุ้นให้คิดมากขึ้น
ยิ่ง​เขียน​จนเกิดความพอใจอาจจะหลั่งโดปามีน
พอเขียนเลยยิ่งคิดนู่นนี่นั่นแบบไม่บันยะบันยัง
ช่วงไหนหยุดเขียนเลยเหมือนจะซึมๆไป
แต่ แต่ แต่ ยิ่ง​เขียนก็ยิ่งคิดต่างมากขึ้น
เลยชอบติดใช้คำว่าแต่ เพื่อสร้างข้อขัดแย้ง

การคิดต่างในหัวก็เหมือนตัวเองมีหลายคน
เลยชอบทะเลาะกับตัวเองและละเลยคนอื่น
ก็คิดต่างจนแทบจะแยกออกมาเป็นสิบคน
การบริหารควบคุมคนในตัวเองทั้งสิบเลย..
บางทีก็ทะเลาะกันจนคนทั้งสิบหนีออกไป
กลายเป็นเหมือนกับภาชนะที่ไม่ได้ใส่อะไร
ความรู้สึก​แบบนั้นอาจคล้ายกับความเหงา
แต่มันก็โล่งเบาสบาย และไร้ความคิดสิ้นดี
เพราะแบบนั้้นถึงได้อยากตายไปเลย

มันเป็นสภาวะแบบเวิ้งว้างว่างเปล่าไร้แก่นสาร
เหมือน​จะยึดเกาะอะไรไว้ไม่ได้และมองไม่เห็น
ถ้าไม่มีสติก็อาจจะทำร้ายตัวเองเพื่อให้รู้สึก
เพราะสภาวะแบบนั้นมันแทบจะไม่รู้สึกหรือคิด
แต่ถ้าคิดมักจะคิดในแง่ลบและเจ็บปวด
เหมือนกับความเจ็บปวดเกิดขึ้นเพื่อให้มันปกติ
แต่บางคนแทนที่จะปกติกลับจมลงไปในนั้น

พักนี้ สังเกตได้ว่า กลัวที่โล่งแจ้ง
ชอบอยู่แบบอุดอู้และมืดๆ รู้สึกนอนสบายกว่า
ยิ่งสว่างและโล่งยิ่งรู้สึกว่างเปล่าละมั้ง
พอเห็นความว่างเปล่าแล้วมันน่าหดหู่
เลยต้องทำห้องให้มันรกๆ เอาของมาสุมๆ

ไม่ใช่ขี้เกียจเก็บ แต่เป็นภาวะทางใจที่ทำ
ทำให้อยากสุมห้องจนรก รกจนหาที่ว่างไม่ได้
คงจะเป็นประมาณนี้ละมั้ง สถานการณ์​ล่าสุด

ปล.เว้นว่างแล้วจะช่วยให้สับสนน้อยลงไหม

ปล.ปล.เว้นว่างช่วยให้หายใจคล่อง เอ้ย อ่านคล่องกว่า เหมือนได้หยุดหายใจ เร่งรีบไป ก็ดีแต่จะไม่ทน อาจจะตายได้ง่ายๆ

ปล.ปล.ปล.หรือ​เปล่านะ​

ปล×4 แก้ไขเรื่องที่ทำไมพิมพ์เว้นวรรคเป็นเว้นว่าง กลับมาอ่านแล้วข้องใจแฮะ คงออกมาจากจิตใต้สำนึก /มั่วๆ

.