ทั้งที่มีแค่คนเดียวแท้ๆ แต่ก็ยังใช้อยู่
ทั้งที่พูดกับตัวเองแท้ๆ พิมพ์ บ่น คนเดียวอยู่
ถึงจะเป็นซิงเกิลเพลเยอร์ แต่ก็ไม่ได้แกร่งอะไรนัก
เจออุปสรรคนิดเดียว ก็แทบถอดใจ โล่หาทางออก
ในเวลาไม่นานนี้ ได้เข้าใจความยากหลายรูปแบบ
ความยากของการมีชีวิตอยู่ ในมุมมองที่ต่างออกไป
นับตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอนก็พบเจอในแบบต่างๆ
ยากจริงๆ ที่จะเขียนออกมาให้ได้อย่างที่ต้องการ
เพราะมีความต้องการที่ขัดแย้งตามความเป็นจริง
เลยทำอะไรไม่ได้ เพราะสิ่งที่ต้องการนั้นไม่มีจริง
ความคิด อารมณ์ หลักการและสิ่งกระตุ้นทำสงครามกัน
คงเพราะมีปัจจัยให้เกิดสิ่งต่างๆ มากมาย ถึงได้ยาก
การควบคุม จัดการหรือเรียนรู้ตัวแปรต่างๆ
ยิ่งมีมาก ก็ยิ่งยาก แต่สามารถใช้ประโยชน์ได้มาก
ถึงอย่างนั้น ฟังก์ชั่นมากแต่ใช้งานได้ไม่ดี ก็ไม่คุ้ม
สิ่งสำคัญคือดูที่วัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า
ความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ใช้งาน
โดยมักจะสัมพันธ์กับความคงทน(ราคา-อายุการใช้)
สัมพันธ์กับคุณภาพ(ประโยชน์หรือความสุขที่ได้รับ)
หากระยะใช้งาน(เวลา)กับคุณภาพ(ความสุข)ไม่พอ
(เวลาและราคาคือความสุขเชิงปริมาณ--ฟังก์ชั่นการใช้งาน ความพอใจต่อสินค้าและบริการคือ ความสุขเชิงคุณภาพ)
เดี๋ยวนะ เริ่มจะมิกซ์ปรัชญากับเศรษฐศาสตร์
ที่จริงก็น่าสนใจอยู่ น่าจะลองศึกษาให้มากกว่านี้
หลังจากได้ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน
ก็เริ่มเข้าใจกลไกของอุปสงค์มากขึ้นจากข้างใน
เข้าใจถึงความสามารถในการช้อปแหลกหลาน
การแหกกระเป๋าสะบั้นมันเป็นยังไง
ถ้าลองศึกษาตลาดให้มากกว่า อาจจะผันตัวเอง
ไปเป็นผู้ประกอบการ (ที่ไม่สมประกอบ) ดีนัก
ก่อนอื่นก็ต้องฝึกตัวเองให้พูดภาษาคนให้คล่อง
ต้องพูดจาให้รู้เรื่อง ไม่ใช่ได้เรื่อง(เจ็บตัว-ใจ)
แค่เขียนไดอารี่ยังดูไม่รู้เรื่องเลย เห้อออ
แต่ก็สนุกดี อย่างน้อยก็ได้ใช้คำ ได้สร้างประโยค
หลังจากทำงานได้เกือบสามเดือน(อย่างไม่น่าเชื่อ)
ก็ได้พบข้อดี(ในความเหนื่อยยาก ลำบากใจ)
หนึ่ง เราได้ทำตามหน้าที่ (แสดงถึงความมีเหตุผล)
สอง ได้ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการทำงานสุจริต ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการทำคุณประโยชน์ให้กับผู้อื่นและตัวเอง (ถ้าทุจริตก็จะเป็นการบ่อนทำลายมากกว่า)
สาม จากข้อสองถือว่าเป็นการทำสิ่งที่ดี ทั้งเป็นประโยชน์(ใช้ให้ทำงานได้) และมีเหตุผล (ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม) ในเมื่อการทำงานเป็นการทำสิ่งที่ดี และเราก็คาดหวังว่าจะมีชีวิตที่ดี เราจึงสมควรทำงานอย่างยิ่ง อันนี้เป็นเหตุผลที่เราสรุปขึ้นเอง ถึงอย่างนั้น ก็ต้องพยายามศึกษาการงานและตัวเอง เพื่อพัฒนาตัวเองและไปสู่ชีวิตที่ดีต่อไป อย่างสม่ำเสมอ
ถ้าตั้งเป้าหมายที่จะมีชีวิตที่ดี ก็ออกจะกว้างเกินไป แต่ค่อนข้างมีความหมายสำหรับเรา ในตอนนี้
ขั้นต่อมาคือต้องลิสต์ว่าชีวิตที่ดีประกอบไปด้วยโครงสร้างแบบไหน และเกิดจากอะไรได้บ้าง
เป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างจะนามธรรมและอุดมคติมาก
แต่เราในตอนนี้ มีเพียงสิ่งนี้ที่เชื่อมั่นและยึดถือได้
ถึงจะภาวนาให้เกิดสิ่งเลวร้ายอยู่บ้าง
แต่เมื่อผ่านพ้นมาได้ ก็อยากให้มีสิ่งที่ดีเกิดขึ้น
ถึงจะหมดหวัง ถึงความฝันจะพังทลายลงไป
แต่เราก็ยังมีชีวิตอยู่ และต่อสู้เพื่อนำมันกลับคืนมา
ถึงการมีชีวิตจะยุ่งยาก แต่ก็สุขใจ เมื่อคลี่คลายลง
สุดท้ายแล้ว มันก็เป็นไปตามธรรมชาติ
ธรรมชาติที่เป็นไปตามระเบียบแบบแผนที่ดูยุ่งๆ
แต่กลับซ่อนความเรียบง่ายไว้อย่างลึกล้ำ
เรายินดีที่จะเสียน้ำตาในทุกวันเพื่อค้นพบธรรมชาติ