เพลงที่ฟังก็หลากหลายแนวละมั้ง ส่วนมากชอบฟังเพลงประกอบฯ
เวลาดูหนัง ดูละครอินๆ มีเพลงเข้ามาแล้วเคลิ้บเคลิ้มเชียว
เพลงost.บางเพลงก็ทำให้เราต้องไปหาหนังมาดูเลยทีเดียว
(บางทีฟังเพลงแล้วย้อนกลับไปดูเรื่องเดิมต่ออีก ก็ชอบเพลงอ่า)
ตอนเด็กๆ ชอบดูการ์ตูนญี่ปุ่น ชอบเพลงประกอบและร้องตามไปด้วย
(เออ ก็ต้องร้องดำน้ำแบบมั่วๆ นั่นแหละ ภาษาอะไหย่ไม่หยุ่)
ดูซีรี่ย์เกาหลี ก็ชอบเพลงประกอบ ต้องไปหาฟังและร้องตามมั่วๆ
อะแต่เรารู้จักวงบิ๊กแบงก่อนฟังเกาหลีอีก จำได้ว่าดูช่องทรูมิวสิค
ฟังตอนแรกงงมาก น..นี่มันภาษาอะไรเนี่ย แอบคิดในใจ เขมรปะวะ
รู้สึกจะเพลงลาย กอะจิมาล เอ็มวีโคตแหวกแนวสำหรับยุคนั้นอะ
เพลงไปฟังมา เอ้ย ชอบเว้ย แปลกดี ถึงหน้าตานักร้องมันจะไม่ค่อยดีนัก
(เมื่อเทียบกับวงอื่นๆ ที่กำลังดังในยุคนั้น รู้สึกจะดงบัง เอสเจน่ะ)
ช่วงประมาณมอปลายเป็นช่วงที่กำลังเปิดรับเพลงภาษาใหม่ๆ
มอต้นก็รู้สึกยังสตริงไทยวัยรุ่นแบบที่สมัยนั้นนิยมอะ แต่หนักไปทางร็อค
รู้สึกว่าเพลงร็อคมันใส่อารมณ์ดี รู้สึกสะใจ ได้ระบายอารมณ์ละมั้ง
บางทีก็ฟัง SNSD สลับกับ Linkin Park เปลี่ยนอารมณ์ตามแทบไม่ทัน ฮา
พอได้ฟังเพลงภาษาอื่น เราก็รู้สึกเปิดรับภาษานั้นมากขึ้น คำง่ายๆ ฟังออก
แน่นอน ถ้ามาเป็นประโยคยาวๆ มึนตายเลย ไม่ได้เรียนเขียนด้วย ฟังอย่างเดียว
ช่วงขึ้นมหา(ดันพิมผิดเป็นห-ม)ลัย ยิ่งฟังเพลงไทยน้อยลง น้อยลงไปเรื่อยๆ
ส่วนมากมันก็มีแต่เพลงอกหักกับแอบรัก รู้สึกไม่อินอย่างแรง เลยไม่ค่อยฟัง
หันมาฟังเพลงสากลชิวๆ อินดี้ๆ พังค์หน่อยๆ ร็อคนิดๆ อารมณ์เพลงฟังสบายไปเรื่อย
ช่วงเรียนหนัก เรียนเรื่องยากๆ หรือช่วงที่ไม่อยากได้ยินเสียงใคร ก็ฟังคลาสสิค
ฟังเพลงบรรเลง บางทีก็เสียงธรรมชาติ รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย มีสมาธิในตอนนั้น
เพลงมันก็เปลี่ยนไปตามช่วงวัยนะ ที่จริง วัยเด็กก็ฟังลูกทุ่งจนแอบร้องได้นิดๆ
ก็น้าชอบเปิดวิทยุนี่หน่า ที่บ้านเราชอบฟังเพลงกันทั้งนั้น ถึงจะขี้บ่น ถึงจะ...
ใจจริงก็อยากจะให้บ่นออกมาเป็นเพลงมากกว่า มันเพลินกว่าเวลาขึ้นเสียงอีก
พูดถึงเพลงแล้วก็มีความสุขนะ ถึงแม้ว่าจะเป็นกิเลสทางเสียงก็เถอะ
หูอยากฟังแต่อะไรที่มันเพลิดเพลิน มันก็เป็นกิเลส เป็นราคะ
แต่สำหรับเรา เพลงมีไว้อธิบายอารมณ์ในตอนนั้นได้ดี อยากร้องเพลงแบบไหน..
ในตอนนี้ ร้องเพลงอะไร เพลงแนวไหน ภาษาอะไร มันก็บ่งบอกสุขภาพได้
พูดเรื่องสุขภาพแล้ว มีเพลงที่ใช้ในการบำบัดความเครียด หรือเสริมพลังด้วย
อ่านมาจากหนังสือ...ลืมชื่อ..เกี่ยวกับเสียงบำบัด เป็นหนังสือเก่ามาก
เปล่งเสียงไหน เช่น อา อู โอ.. ส่งผลต่ออวัยวะ/จักระส่วนไหน ก็มีบอกเอาไว้หมด
ลองฝึกตามแล้วรู้สึกเหมือนฝึกวิทยายุทธ์ หึหึ แต่ได้ผลดีนะ เปล่งเสียงได้ดีขึ้น
ขนาดเวลาไม่สบายเจ็บคอ(มากกก)ยังมีเสียงไปสอนโยคะ คั้นออกมาจากลมปราณ
แต่ไม่ดีนะเออ เราชอบฝืนร้อง ฝืนพูดแบบไม่ห่วงใยสุขภาพเสียงเท่าไหร่
นี่เรามาถึงจุดๆ นี้ได้ยังไง.. โยงไปโยงมาจนกลายเป็นเรื่องกำลังภายใน
แต่พูดถึงเพลง เราก็ติดเกิ๊น จนออกจากบ้านไม่ได้ ถ้าไม่ได้ใส่หูฟังฟังเพลง
พอออกไปข้างนอก ต้องให้เพลงมันกลบอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่ชอบ
ยิ่งนั่งรถไฟใต้ดิน จะหลับทุกที ฟังเพลงร็อค หรือเพลงอนิเมะก็ยิ่งเพลิน
แต่ตอนนี้ต้องแก้นิสัยนี้ เพราะโทรศัพท์เครื่องนี้ มันต่อต้านหูฟังมาก
ซื้อมากี่อัน ก็รีบพัง เสียข้างเดียวบ้าง หลุดบ่อยบ้าง ตังค์ไม่มีจะกินแล้ว