บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร? คิดว่าอาจจะไม่รู้จักดีพอด้วยซ้ำ..
สิ่งหนึ่งที่พอจะใช้อธิบายตัวเราในขณะนี้ได้ก็คือ 'คนเจ้าปัญหา'
มีแต่เรื่องวุ่นวาย เรื่องชวนปวดหัว ทำให้ต้องคิดไม่ตกไปในแต่ละวัน
จะว่ายังไงดี ถึงจะมีเรื่องให้คิดมาก แต่ก็ชอบคิดนะ ชอบแก้ปัญหาด้วย
เพียงแต่ปัญหาสำคัญก็คือ เวลาที่เราไม่รู้ว่าอะไรคือปัญหา??
นอกจากนี้ ช่วงเวลาแย่ๆ ยังเกิดขึ้นบ่อยๆ นั่นคือ การปราศจากความคิดในหัว
บางครั้งก็อาจจะดี แต่ถ้าต้องทำงานจริงจัง รับรองว่ามันแย่มาก
พอคิดมากก็เป็นปัญหาว่าจะจัดการกับความคิดอย่างไร?
พอไม่คิดอะไรเลยกลับน่าหนักใจยิ่งกว่า เพราะทำอะไรไม่ได้
เวลาที่ในหัวมันปราศจากอะไร แทบจะว่างเปล่าจนรู้สึกขาวโพลน
ช่วงเวลาหลังตื่นนอนมักจะเป็นแบบนั้น ยิ่งอากาศหนาวล่ะใช่เลย
ทำให้นอนจมไปกับความว่างเปล่า รู้สึกหม่นหมองเล็กน้อย
ถ้าจะว่าเหมือนปราศจากความรู้สึกก็เป็นได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร
ทำให้กว่าจะตื่นลุกขึ้นมาจากเตียงมันยากลำบากเหลือเกิน
เหมือนความกระปรี้กระเปร่าในโลกนี้ได้มลายหายไป
ภารกิจในแต่ละวันของเราก็ไม่ได้หนักหนาอะไรมากมาย
ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่ได้ไปทำงานนอกบ้าน ไม่ได้ฝึกพิเศษอะไร
แต่มีงานรับจ้างสอนโยคะให้กับญาติผู้ใหญ่สองคนในช่วงบ่าย
ก็ไม่เรียกว่าหนักหนาอะไรจริงๆ มีงานเบ๊อีกสองสามอย่างภายในบ้าน
แน่นอนว่ามันไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกภาคภูมิใจกับชีวิตที่เป็นอยู่
ทั้งท้อแท้ ถดถอย หมดหวัง และมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง
ส่วนสาเหตุที่เราไม่ไปทำงานทำการแบบชาวบ้านทั้งที่อายุ 25 ปีแล้ว
เนื่องมาจากอาการซึมเศร้าอย่างหนักจนต้องไปรักษากับจิตแพทย์อยู่ช่วงหนึ่ง
พยายามที่จะอธิบายเกี่ยวกับตัวเองนะ แต่อาจจะไม่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ในทีเดียว
ปัญหาหนึ่งที่พอจะมองว่าควรจัดการอย่างเร่งด่วนคือ ขาดแรงจูงใจในการทำงาน
ซึ่งรวมไปถึงบางครั้ง ขาดแรงจูงใจในการมีชีวิตอยู่ นั่นล่ะปัญหาสำคัญในตอนนี้
แต่เราก็มีสิ่งหนึ่งที่สำคัญ รู้สึกว่ามันสำคัญกับเรามาก นั่นคือการเขียน
อยากที่จะใช้การเขียนเป็นแรงขับเคลื่อนชีวิต ทำให้ชีวิตดีขึ้นด้วยการเขียน
ถึงจะรู้ว่าตัวเองบกพร่องเรื่องสมาธิ จนบางทีแทบจะไม่เป็นอันทำอะไรเลย
แต่ก็จะพยายามต่อไป พยายามไปพร้อมกับการเขียนที่เรารักนี่เอง