ภาพนี้ ยังกับคนจะฆ่าแมวเลย เหอๆ
มันเป็นมุมกล้องอะนะ ที่จริงก็คิดๆ อยู่ เห้ยยย
วันนี้ตั้งใจนอนพักฟื้นแท้ๆ กลับไม่ค่อยหลับ
ยังไงก็อาจจะดีกว่า ตอนกลางคืนจะได้หลับไง
เหมือนจะฝืนๆ แต่ชักเริ่มชิน นอกจากป่วยฝน
ยังมาท้องอืด ปวดแต่เช้ามืดล่ะ แต่พอกินอีโน
มันก็มีเรอมีตด เหอๆ ค่อยยังชั่วหน่อย คึคึ
อะไรเนี่ย สองทุ่มล่ะ หนาวขนาดนี้ อาบน้ำไง
เห้อออออ ลืมดูเวลาอีกแระเรา ดูแต่ค่าแบตฯ
ห่วงแต่ว่าแบตเตอรี่มือถือจะหมดไหม
ไม่ห่วงเลยว่า เวลาจะผ่านไปยังไงสินะ
โอยยย ทำไมป่วยต่อเนื่องขนาดนี้
พอเราหยุด พอฟื้นตัวได้ คนอื่นเป็น สลับไป
ช่วงนี้รู้สึกว่าอาการบางอย่างเป็นผลข้างเคียงยา
ตั้งแต่การขับปัสสาวะ การกิน(กลับมาตระกละ)
การขับถ่าย การมองเห็น/ตาพร่าบ่อย, เห็นหมอก
ทั้งที่ประคองจิตใจได้ดีขึ้น แต่ร่างกายกลับแย่
แถมยังมีปัญหาเวลาคุยกับหมอจิตเวช
คิดๆ ว่าจะย้ายโรงบาลมาที่ใกล้ และฟรียิ่งกว่า
แต่ปัญหาก็เยอะ ปัญหาที่ตัวเราเองอะแหละ
อึดอัดมาก คนเยอะๆ รวมกันในที่ทึบๆ รู้สึกแย่
ถ้าเป็นโรงบาลรัฐ โปร่ง โล่ง กว้าง สบายใจกว่า
แถมยังต้องซักประวัติใหม่อีก ขี้เกียจพูดชะมัด
เผลอๆ ก็ขี้เกียจรักษาตัวกับโรงบาลอีก เซ็งๆ
อึดอัด เวลาอยู่กับคนเยอะๆ ในที่แคบๆ ซะงั้น
รู้สึกแย่มาก เมื่อก่อนก็ไม่เป็นสักหน่อย
ตั้งแต่เป็นนักเขียนนีทผสมฮิคคิโคโมริ.. ก็..
เพ้อๆ เพ้อมากเกินไป จนเข้ากับใครไม่ได้
น่าปวดหัวกับตัวเอง ยังไงก็ไม่รู้ รู้สึกหนักๆ
แบบว่าเป็นภาระ หนักโลก น่าเบื่อมาก
อยากนอนชิวแบบแมวๆ ไม่อยากอยู่กับคนเลย
ทำใจยากชะมัด ฝืนสุดๆ เวลาพูดกับมนุษย์โลก
ไร้สาระชะมัดเลย ความคิดบางที ก็น่าทิ้งเนอะ
คงเพราะป่วยๆ ธาตุลมปั่นป่วนภายในท้องสินะ
เลยทำชิวร้องเพลงไปเรื่อย แอบชอบเสียงตัวเอง
หลงตัวเองสุดๆ ฟังซ้ำอยู่นั่นแหละ ทั้งผิดเพี้ยน
บางทีก็อยากรักษาอาการซึมเศร้าด้วยวิธีอื่น
รู้สึกหนักเคมี อยากใช้ธรรมชาติ สมุนไพร
อะไรที่เบาสบายกว่า แต่อย่างเราจะไหวไหมนะ
ไว้ค่อยๆ คิดหาทางไป ออกกำลังกายก็ไม่ไหว
หอบภายในสามนาที ทั้งที่เคยเรียนโยคะมา
อาจารย์คงนึกเสียใจ ฟูมฟักศิษย์ไม่ได้เรื่องคนนี้
เรื่องมันช่างน่าปวดใจ และขี้เกียจเล่าเหลือเกิน
ถ้าใช้ชีวิตประจำวันได้ง่ายๆ ก็คงดี
มันยากลำบากในการทำกิจที่คนทั่วไปทำได้
เช่น ตื่นนอน กินข้าว อาบน้ำ ทำงานบ้าน
อะไรๆ ก็น่าเบื่อ ไม่มีอะไรอยากทำเป็นพิเศษ
สิ่งที่ชอบก็เฉยๆ ไปเรื่อยๆ ยิ่งตอนเช้าๆ แย่ๆ
ช่วงเที่ยงหรือเลยไปบ่ายๆ กว่า ถึงจะตื่นตัวพอ
บางทีก็ตื่นตัวมากจนน่ารำคาญเลย คึกสุดๆ
อะไรๆ ไม่พอดี ไม่ Homeostasis ไม่สมดุลเลย
เพราะเราเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรล่ะ
ไม่ค่อยพอดี ขาดๆ เกินๆ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น
แถมยังดื้อรั้น ไม่ค่อยเชื่อฟังใคร
ทั้งที่โดนหลอกง่ายแท้ๆ แต่ส่วนมากก็เป็นคนดีๆ
ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะได้อยู่ท่ามกลางคนดีๆ เสมอ
จนเราหลงชื่นชมในตัวผู้อื่นมากเกินไป
รู้สึกอิจฉาหลายๆ อย่าง ทั้งกลัวไม่ถูกยอมรับ
ทำให้เราไม่ค่อยแสดงออก ดูจะเก็บตัวหน่อยๆ
ชอบถูกแกล้งเป็นคนหายอยู่เลย เพราะไม่พูด
จนเพื่อนคิดว่าเราเป็นมนุษย์ล่องหนจริงๆ เหอๆ
ที่จริงก็เกลียดการพูดล่ะ เพราะไม่ถูกยอมรับ
แต่เข้าเรียนมหาลัย ต้องปรับตัวให้พูดมากขึ้น
และใช้วิธีลัดตีชี้เพื่อนด้วยแอลกอฮอล
ยอมรับว่าดูเป็นคนโง่ๆ ติดเพื่อนและขี้ขลาด
ถึงอย่างนั้น ช่วงปีหนึ่งเท่านั้นที่แดกแหลกราน
เพราะอยู่หอ อย่างที่ใฝ่ฝันมานาน มาโดยตลอด
แต่ก็แค่ปีเดียว ถึงอย่างนั้นก็มีคุณค่าทางใจมาก
มิตรภาพ ความทรงจำ เสียแต่ไม่มีรักกับใครเค้า
เห้อออ เสียดายวัยหนุ่มสาวที่แห้งแล้งเรื่องรักๆ
แต่ไม่เสียดายเรื่องมิตรภาพ ประสบการณ์ ค.รู้
มันจบลงด้วยเวลาอันสั้น แทบไม่อยากยอมรับ
พอปีสองต้องกลับกรุง วุ่นๆ แข่งขัน,กับใจตัวเอง
เข้าห้องสมุดบ่อยมาก เพราะรู้สึกโง่ ด้อย ไร้ค่า
การเรียนดีขึ้น แต่มีเวลาให้เพื่อนน้อยลง
สุนัขแสนรักก็มาตาย เลี้ยงแมวจรไว้ประจำบ้าน
ลูกแมวก็พลัดตกลงมาตายบ้าง ถูกหมากัดบ้าง
เจ็บปวดใจ รายงานก็เยอะ วิชาเรียนก็ยาก
ยังดีที่มีโยคะมาช่วยประคับประคองกายใจ
จากที่ป่วยภูมิแพ้ประจำ ก็หายไปซะสนิท
แต่พอหยุดฝึกร่างกาย อะไรก็กลับมาเสื่อม
ยอมรับว่าหยุดความคิดแทบไม่ได้ ดำดิ่งลงเหว
จมอยู่ในห้วงดำมืดไร้กาลเวลามาแสนนาน
จนลืมเลือนโลกภายนอก ผู้คน ความงาม
ทุกอย่างเลือนลาง เลือนหายไปกับตา
เจ็บปวดเหลือเกินจนแทบจะรับชีวิตไว้ไม่อยู่
ความรู้สึกที่มากล้นหาทางหลั่งออกมาไม่ได้
น้ำตาไหลมาไม่หยุดจนแสบตา ต้องหลบหน้า
ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ยอมล้ม ไม่ยอมจมอยู่อย่างนั้น
ต้องแก้ปัญหาหนักๆ ต้องออกไปจากตรงนี้ให้ได้
เราในตอนนั้น ยังคงเชื่อมั่นว่า ทางออกยังมีเสมอ
เลยมุ่งหน้ารับการรักษาอาการป่วยทางจิต
แต่อุปสรรคก็มากเหลือ ทั้งอคติและร่างกายแย่ๆ
อะไรเนี่ยสามทุ่ม เขียนนานเกินไปแระ น้ำล่ะ
อาบน้ำด่วน ก่อนไข้จะถามหา แอบหิวแหะ
🐾🐾🐾🐾🐾🐾🐾🐾🐾🐾🐾🐾🐾🐾